ใช้คำง่าย ๆ
เนื่องจากรูปแบบประโยคภาษาไทยกับภาษาอังกฤษมันต่างกันครับ ดังนั้นเราต้องเข้าใจว่า คอมพิวเตอร์มันแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น มันไม่ได้เก่งขนาดที่สื่อสารกับเราได้รู้เรื่องหรอกครับ ดังนั้นสิ่งที่มันทำก็แค่ เรียบเรียงคำ และแปล ออกมาให้เป็นอีกภาษา และบางทีมันก็เอา คำต่าง ๆ มาปนกัน สับสนวุ่นวายไปหมด และวิธีแก้ตรงนี้ไม่ยากครับ นั่นคือ ใช้คำง่าย ๆ ตรง ๆ ไม่ต้องใช้คำที่มันดูดีมากนัก พวกที่สืออารมณ์ทั้งหลาย ตัดทิ้งไปเลยครับ ไม่ต้องใส่ หรืออาจใช้คำอื่นแทน เพราะคอมพิวเตอร์มันทำความเข้าใจเป็นคำ มันไม่ได้เข้าใจสิ่งที่เราสื่อ อย่างเช่น เราไม่พอใจใคร และเราพิมพ์ เข้าไปว่า "อย่างนี้ก็สวยเด้" ลองคิดสิครับ คอมพิวเตอร์มันจะแปลว่าอะไร "This is a beautiful garden." นั่นไง ไม่ได้ตรงกับที่ผมสื่อเลยสักนิดเดียว เพราะงั้น ลดคำแบบนี้ลงครับ เปลี่ยนใหม่ครับ เช่น เราต้องการให้รู้ว่ามันดี แทนที่เราจะบอกว่า "มันสุดยอดมาก" ๆ หรือ "มันเจ๋งไปเลย" เปลี่ยนมาเป็น "มันดีมาก" และลองแปลดูครับ "It was really good." เห็นไหมครับ ดีกว่ากันเยอะเลย เราลองใช้ศัพท์ง่าย ๆ และภาษาพื้น ๆ เอาแบบพื้นฐานพอแล้วครับ
ใช้ประโยคสั้น ๆ
ในการแต่งประโยคเราไม่ควรจะใช้ประโยคที่มันยาว ๆ เพราะการแปลประโยคยาว ๆ มันจะ จะทำให้โปรแกรมนำคำมาสลับกัน และสลับไปสลับมา จนสลับเพี้ยนและอ่านไม่รู้เรื่องนั่นเอง ดังนั้น ในการแต่งประโยคให้แต่งเป็นประโยคสั้น ๆ ไม่ต้อง ไปยางมาเกินไป ทางที่ดีไม่เกินบรรทัด ถือว่ากำลังดี เพราะจะทำให้ลดความผิดพลาด ลงไปได้เยอะ หรือบางทีอยากให้แยกประโยคออกมาเยอะ ๆ ด้วยซ้ำ เพื่อให้คอมพิวเตอร์มันสามารถแปลได้อย่างแมนยำ ที่สำคัญ จบประโยคและก็ต้องเว้นวรรคด้วยนะครับ
ใส่ "." ทุกครั้งหลังจบประโยค
สมัยเป็นเด็กเรียนภาษาอังกฤษ คุณครูบอกว่าจ้องใส่"." ทุกครังหลังจบประโยค นั่นเลยครับ เช่นเดียวกันเลย แต่ครั้งนี้เรามาใส่ในภาษาไทย หลายคนอาจงงว่าจะใส่ทำไม นั่นก็เพราะว่าเราต้องการแปลบทความเป็นภาษาอังกฤษดังนั้นเราก็ต้อง ใส่ "." เพื่อที่จะ ให้คอมพิวเตอร์มันทราบว่า ตรงนี้คือจบประโยคซึ่ง หลักการก็คล้าย ๆ ข้อที่แล้ว แต่ครังนี้เราเพิ่ม "." เข้าไปเพื่อให้มันแม่นยำขึ้นไปอีกไงครับ ใครที่ชอบพิมพ์แล้วเพลินอย่างผม ก็ต้องใช้วิธีการเรียบเรียงใหม่ ฮ่า ๆ เพื่อให้คอมพิวเตอร์มันรู้เรื่องครับ
ทับศัพท์ไปเลย
คำบางคำที่เป็นคำที่เราไม่ต้องการแปล หรือว่าพิมพ์ไทยแล้วไม่รู้จักอย่างเช่น ชื่อสินค้า หรือยี่ห้อสินค้า เราก็ใส่ ทับศัพย์ไปเลยครับ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทราบว่า ไม่ต้องแปลคำนี้อีกแล้ว เพราะงั้น มันจะช่วยลดความผิดพลาดไปได้อีกเยอะครับ
คำนามให้ใส่เป็นภาษาอังกฤษ
อันนี้ก็มีหลักการเดียวกับข้อที่แล้วครับ นั่นคือคำไหนที่ไม่ต้องการให้แปลอย่างเช่นชื่อคน เาควรใส่ไปเลยเป็นภาษาอังกฤษ ถามว่าทำไมหรอครับ อย่างเช่น ชื่อคน ชื่อ"ไก่" ลองคิดดูสิครับ ผมแต่งประโยคและพูดถึงคนชื่อไก่ แต่ถ้าใช้โปรแกรมแปล เราคงได้ไก่เป็นตัว ๆ แน่เลยครับ เพราะงั้นต้องระวังด้วยนะครับ
ลดคำที่ไม่จำเป็น
ในบทความของผมเองมีเยอะมากครับ คำแบบนี้ อย่างเช่น ครับ นะ หรอ น่ะ อ่ะ หรือคำอื่น ๆ ก็เหอะ (นั่นไงมีคำวาเหอะ โผ่มาอีกล่ะ) ในการแปล ให้เอาคำพวกนี้ออกไปให้หมดครับ เพราะคอมพิวเตอร์มันไม่ได้รู้จักคำแบบนี้หรอกครับ เพราะงั้นไปลบมันออกให้หมดครับ และค่อยแปล ไม่งั้นบทความจะไม่รู้เรื่องด้วยเช่นกัน
ลองไปปรับใช้กันดูนะครับ ส่วนเว็บท่านที่นั่งแปลและบทความท่าน ผิด ๆ ถูก ๆ ช่วยแก่ด่วน
เลือกหมวดหมู่ย่อยที่ต้องการอ่าน
All
คอมพิวเตอร์
Adword
Affiliate
Analytics
Artisteer
Blog
Blogger
Browser
Cloud Computing
Computer
Design
Drop Shipping
Ebay
E Bussiness
E Commerce
E Mail Marketing
E Marketing
E Marketing
Eyeos
Facebook
Fan Page
Gadget
Google Adsense
Google Buzz
Google Docs
Google Readder
Internet
Keyword
Linkedin
M Commerce
Mlm
M Marketing
Office 2.0
Paypal
Planing
Ranking
Seo
Smo
Social Gadget
Social Media
Social Network
Software
Twitter
Viral Marketing
Web 2.0
Website
Youtube
Zoho