แต่เมื่อถเรามองตามความเป็นจริงแล้ว ส่วนมากเราจะเห็นว่า เว็บไซต์ที่เราเข้าไป ไม่ได้เน้นในเรื่องของการขายสินค้าผ่านเว็บไซต์กันสักเท่าไรส่วนมากจะเน้นการนำเสนอข้อมูล และก็ดึงดูดความสนใจ อีกทั้งประชาสัมพันธ์องค์กร อีกทั้งบบอกรายละเอียด วิธีปรับแต่ง วิธีใช้สินค้า แนะนำสินค้าอะไรพวกนี้ ส่วนการขายสินค้าบนเว็บ มักจะไม่ค่อยเป็นที่สนใจนัก เพราะแม้แต่เจ้าของผลิตภัณฑ์เองก็ยังไม่ให้ความสำคัญเลย
ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะ ธุรกิจเองก็ยังไม่พร้อมที่จะให้บริการในเรื่องของการซื้อ-ขายสินค้าในระบบออนไลน์ หรือ ลูกค้าเองก็ยังไม่พร้มที่จะเข้าสู่การซื้อขายสินค้าในระบบนี้ หรือไม่ ก็ไม่ต้องการที่จะเป็นคู่แข่งการค้ากับตัวแทนขายที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพราะงั้นสิ่งที่เราเห็นได้คือ เว็บไซต์มักจะเป็นแค็ตตาล๊อก (Catalogue) แนะนำสินค้าเสียมากกว่า
แต่เชื่อไหมครับ การทำตลาดแบบนี้ผมบอกตามตรงว่า เป็นการเสียโอกาสอย่างมาก ทำไมน่ะหรอครับ เคยไหมครับ ที่อยากซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต และเข้าไปดูในเว็บไซต์เจ้าของสินค้า แต่เจ้าของสินค้ากลับระบุว่า ให้ไปซื้อสินค้ากับตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกเซ็ง และเบื่อ ๆ มาก ๆ กับแนวคิดแบบนี้ เพราะมันทำให้เรายุ่งยาวุ่นวาน แทนที่เราจะซื้อสินค้าได้เลย แต่กลับยังไม่ได้อีก ต้องไปตามหาตัวแทนจำหน่ายที่ไหนไม่รู้ บางทีดีไม่ดี ในพื้นที่ที่เราอยู่ ไม่มีตัวแทนจำหน่าย อีกหาซื้อไม่ได้อีก เสียโอกาสไปเยอะเลย
ที่จริงแล้ว ถ้าเราเน้นที่ตัวแทนจำหน่ายจริง ๆ ผมบอกตามตรงว่า ให้คุณรับส่งสินค้าทางเว็บไซต์ และก็ค่อย ส่งข้อมูลการสั่งซื้อให้กับตัวแทนจำหน่ายอีกที แต่ถ้าไม่มีตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก็ค่อยหารูปแบบส่งโดยตรง เพื่อลดการเสียโอกาสทางการค้า ที่จริง ลูกค้าอาจต้องการใช้สินค้าเราเยอะมากก็ได้เพียงแต่ เขาหาซื้อไม่ได้เท่านั้นเอง
สื่อสารผ่านโซเชียลเน็ตมีเดียเพื่อตอบ สนองความต้องการของลูกค้า Facebook และ Twitter
หลังจากที่เราปรับปรุงเว็บไซต์ให้สามารถรองรับการซื้อสินค้าในระบบออนไลน์จากลูกค้าได้แล้ว เราก็มาถืองช่องทางการประชาสัมพันธ์ล่ะครับ เราจะใช้อะไรดีล่ะ ช่องทางพวกนี้ที่จริงผมนำเสนอมาพอสมควรแล้วนั่นคือ Social network ซึ่ง Twitter และ Facebook นี่ล่ะเป็นช่องทางที่ดีและน่าสนใจ เลยทีเดียว เพราะเราสามารถส่งข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่าน twitter และfacebook ไปถึงลูกค้าได้โดยตรง และอาจส่งลิงค์ไปให้ลูกค้าพอลูกค้าคลิกเข้ามาก็ทำให้ลูกค้าที่สนใจในสินค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ในทันที
สร้างความประทับใจ
หลังจากที่เราประชาสัมพันธ์ ข้อมูลที่ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้แล้ว เราก็ต้องมาสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งเครื่องมือที่ผมจะใช้ก็คือ Social network (อีกแล้ว) เพราะ Social network เป็นช่องทางที่จะรับการสื่อสารจากลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้าสามรถส่งข้อมูลกลับหาเราได้พูดคุยสื่อสารกบลูกค้าได้ และนั่นเองที่เป็นช่องทางที่น่าสนใจเพราะเราสามารถ ให้คำปรึกษากับลูกค้า ในกรณีที่เกิดปัญหา ทางเทคนิคหรือวิธีการใข้ เราสามารถรับความต้องการจากลูกค้าในกรณีที่ต้องผลิตสินค้าตัวใหม่ Social network ก็เป็นอีกช่องทางที่เราจะเก็บข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นรสนิยม ความต้องการ หรือสิ่งที่ลูกค้าอยากให้ปรับปรุงจากสินค้าเดิม เพราะงั้น เมื่อมีการสื่อสารกับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ช่องางนี้จะสร้างความประทับบใจให้กับลูกค้าได้มากมายเลยทีเดียว และก็ทำให้ลุกค้าบอกต่อได้ด้วยเช่นกันครับ
แต่ผมว่านะครับ ท่านผู้อ่านหลายคนก็ยยอมรับแนวทางนี้แล้วเรียบร้อย เพียงแต่ ยังไม่ได้ลองใช้มัน หรือไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหนดี เอาเป็นว่า ว่าง ๆ จะลองหากรณีศึกษามาให้อ่านกัน เพื่อที่จะทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยก็ลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหน ถ้าเรา สามารถที่จะทำธุรกิจออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จะดีแค่ไหรถ้าเราเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา จะดีแค่ไหน ถ้าเรามีลูกค้าเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยช่วยเหลือเรา เอาเป็นว่า ผมบอกตามตรงนะครับ ถ้าเมืองไทยหันมานิยมใช้ระบบขายสินค้าออนไลน์เต็มรูปแบบรับรอง เศรษฐกิจไทยคงโตไปได้อีก ไหน ๆ
ลองเลือกดูหมวดหมู่ย่อยที่ต้องการอ่าน
All
คอมพิวเตอร์
Affiliate
Artisteer
Blog
Blogger
Browser
Computer
Design
Drop Shipping
E Commerce
E Commmerce
E Mail Marketing
E Maketing
E Marketing
Facebook
Fan Page
Gadget
Google Adsense
Google Buzz
Google Docs
Google Readder
Internet
Linkedin
M Commerce
Mlm
M Marketing
Seo
Smo
Social Gadget
Social Media
Social Network
Software
Twitter
Virul Marketing
Website
Youtube