ก่อนอื่น เรามาเรียนรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับเรื่องของการ ทำ E-mail marketing ในบทความนี้ผมขอแบ่งเป็นขั้นตอนย่อย ๆ ให้อ่านกันก่อนนะครับ เราลองมาดุกันเลยครับ
การหาและเก็บข้อมูล E-Mail ของลูกค้า
ในส่วนนี้ คุณต้องใช้เวลาพอสมควรครับ ในการเก็บ แต่ถ้าคนที่เคยอ่านบทความของผมมาตลอดก็จะรู้ว่ามันไม่ได้ยากนัก เพราะคุณสามารถเก็บ ได้ทุกครั้ง เมื่อคุณเข้าพบกับลูกค้า เพราะสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำตอนที่เข้าพบลูกค้านั่นคือ ขอช่องทางท่คุณจะติดต่อกลับ ไม่ว่าจะเป็น E-Mail เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูล อื่น ๆ ที่คุณสามารถติดต่อกับลูกค้าได้ ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ
ทำแบบพรอมให้ลูกค้ากรอกE-Mailในเว็บไซต์ เพราะในส่วนนี้ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่คุณจะได้E-Mailของลูกค้า เพราะช่องทางนี้ สำหรับคนที่อ่านบทความผมอยู่เสมอ ผมก็เข้าใจว่า คุณเองมีช่องทางแบบนี้อยู่แล้ว อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ ผมได้แนะนำให้คุณพัฒนาเป็นช่องทางการสือ่สาร ข้อมูล กับลูกค้า มาหลายบทความ และคุณก็จะมีE-Mailของลูกค้าอยู่แล้ว และที่สำคัญสามารถแบ่งรูปแบบไปได้เยอะมาก เช่น รับข่าวสาร ขอข้อมูลเพิ่มเติม และอื่น ๆ
เปิดการร่วมสนุกผ่านเว็บไซต์ไปเลยครับ เพราะทุกการร่วมสนุกคุณก็จะบังคับให้ลูกค้า ใส่E-Mail เข้าไป เท่านีคุณก็จะได้E-Mailลูกค้ามาแล้วครับ
เปิดรับสมาชิกผ่านเว็บไซต์ อันนี้ก็น่าสนใจครับ เพราะ เป็นช่องทางที่ง่ายดี และก็น่าสนใจอีกด้วย ลองหาสิทธิพิเศษให้สมาชิกบ้าง เช่นการเขียนบทความพิเศษ เฉพาะสมาชิกเพื่อบังคับให้ลูกค้าสมัครสมาชิก เท่านี้ก็ได้E-Mailลูกค้าแล้วครับ
ลองหาเว็บไซต์ที่เขาเปิดบริการ ใช้ฐานข้อมูลของเขา อันนี้ก้เป็นอีกช่องทางหนึ่ง เพราะเว็บไซต์พวกนี้มีเยอะมาก ที่เราไปสมัครสมาชิก และเราก้ได้สแปมมาเพียบเลย นั่นล่ะครับ ใช่เลย คือเราจะส่งE-Mailหาลูกค้าของเขาอ่ะครับ ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกค้าเราโดยตรอง แต่อย่างน้อยก็น่าสนใจไม่นอย ในการเปิดตลาดใหม่ ผ่านE-Mail
แต่ต้องบอกก่อนว่า ผมเคยอ่าน พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่บอกไว้ในมาตรา 11 ว่า "ผู้ใดส่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด หรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ บุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท" เพราะงั้นระวังตัวบ้างนะครับ สำหรับวิธีหลัง เพราะบางทีถ้าผู้ใช้ไม่ประสงคจะรับ และข้อความเรากลายเป็น สแปม อันนี้จะอันตรายครับ
หาเครื่องมือในการส่ง E-Mail หาลูกค้า
ปกติแล้วอีเมลล์ ในบริการ Free E-Mailทั่วไป น่าจะส่งได้วันละ ไม่เกิน 200 อีเมลล์อ่ะครับ ถ้าส่งมากเกินไป อีเมลล์ของคุณถูกระงับการใช้บริการก็ได้เพราะงั้นเมื่อเราได้อีเมลล์มาในจำนวนมาก ๆ ลองหา Software ช่วยอื่น ๆ เช่น ซอฟต์แวร์ของ www.PHPlist.com ที่เป็นซอฟต์แวร์ฟรี ระบบเปิด (Opensource) ที่คุณสามารถไปดาว์นโหลดมาติดตั้งที่เว็บไซต์ของคุณแล้วใช้งานได้ หรือ Aconia Rocket Mail (www.anconia.com) ที่สามารถติดตั้งไว้ที่เครื่องของคุณแล้วส่งหาลูกค้าได้เลย แต่ผมก้ไม่แนะนำให้ส่งทีละมากนักอ่ะครับ สำหรับคนที่ส่งทีละเป็นแสนE-Mailขอแนะนำว่า ทยอยส่งดีกว่าครับ เพราะส่งทีละมาก ๆ บางทีอาจเกิดปัญหาก็ได้ครับ
การวัดและการประเมินผล
ทั้งนี้คุณต้องติดตามผลทุกครั้งที่ส่งอ่ะครับ เช่นลุกค้าเปิดดูE-Mailคุณกี่ครั้ง เป็นกี่ เปอร์เซ็นต์ ของE-Mailที่คุณส่ง เพราะมันจะบอกถึงความน่าสนใจของคุณได้เช่นกัน เพราะงั้นลองหาดูครับ เพราะปกติแล้ว เราก็จะสามารถหา ยอดการเปิดอ่านได้อยุ่แล้ว และต้องตรวจสอบด้วยว่า นอกจากเปิดอ่านแล้ว ลูกค้าคลิกมาดุข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าของคุณกี่คน เอาเป็ฯว่ายิ่งประเมินออกมาได้มากยิ่งดีครับ ไม่มีอะไรมากมายนัก
แต่ทั้งนี้คุณก็ต้องดูเรื่องของข้อมูลที่ส่งและความถี่นิดหนึ่ง แบบนี้ครับ
จะส่งอะไรหาลูกค้าดี ใน E-mail ?
การส่ง email หากลูกค้า มีหลายๆ คนเลือกส่งข้อมูล สินค้ามาใหม่, สินค้าโปรโมชั่น, ข่าวสารจากทางร้าน, การพูดคุยจากเจ้าของเว็บไซต์ไปยังลูกค้า, ทิปเทคนิคต่างๆ เช่นเทคนิคการเลือกซื้อของ, หรือทิปการนำสินค้าไปใช้ (คนชอบพวกนี้มาก) หรือลองกลับมาดูว่า ร้านค้าคุณ หรือเว็บไซต์คุณมีข้อมูลอะไร อัพเดทบ่อย ๆ แล้วเป็นสิ่งที่คนทั่วไป หรือลูกค้าของเราน่าจะสนใจ ก็สามารถส่งไปหาลูกค้าได้ เช่น เว็บบอร์ด มีคุนพูดคุยกระทู้น่าสนใจ ก็สามารถส่งไปให้คนเข้ามาอ่านได้
ความถึ่การส่ง E-Mail หาลูกค้า
ผมขอแนะนำว่า ไม่น่าจะเกินสัปดาห์ละครั้งอ่ะครับ แต่ถ้าข่าวสารไม่มากนัก เอาเดือนละครั้งก้ได้ แต่วันละครั้งนี่ไม่เอานะครับ ขี้เกียจเปิดอ่านอ่ะครับ ผมเองยังบล็อกไปเยอะมาก หลายบริษัทเลย เพราะส่งมาได้ทุกวี่ทุกวัน หรือถ้าไม่แน่ใจ ส่งเฉพาะประเด็นร้อน ๆ น่าสนใจ ตามช่วงเวลาไปเลยก้ได้ครับ มีข้อมูลดีดีก็ก็ส่ง ไม่มีก็ไม่ส่ง อันนี้ก็ได้เช่นกันครับ ลูกค้าไม่เบื่อด้วย แต่ถ้าคุณพัฒนาระบบของตัวเองขึ้นมาส่ง ก็ขอแนะนำว่า ควรจะมีตัวเลอืกที่ให้ลูกค้าเลือกได้ว่า จะรับE-mailถี่แค่ไหน อันนี้ก็เพ็อนเรื่องดีเช่นกันครับ เพราะงั้นต้อง ศึกษาให้ดีครับ
เอาเป็นว่า วันนี้เราเรียนรู้กันคร่าว ๆ ก่อนนะครับ และผมจะมาแจกแจงรายละเอียด ให้เป็นข้อ ๆทีหลัง แต่ผมคาดว่า จากข้อมูลข้างต้นหลายคนน่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้พอสมควร แต่คนที่ยังหาทางไปไม่เจอ ก็รอติดตามคราวหน้าครับ
เลือกหมวดหมูที่คุณสนใจ
All
คอมพิวเตอร์
Artisteer
Blog
Blogger
Browser
Computer
Design
E Commerce
E Commmerce
E Maketing
E Marketing
Facebook
Fan Page
Google Adsent
Google Docs
Internet
Linkedin
M Commerce
M Marketing
Seo
Smo
Social Media
Social Network
Software
Twitter
Website
Youtube