1. ขาดทักษะในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งหากดูจากหลายเว็บไซต์ที่เปิดมาพักหนึ่งแล้วไม่มีคนเข้าดูเรามักจะเห็นว่าการนำเสนอของเขสไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรนัก หรือไม่ก็ระบุข้อมูลไม่ครบ ไม่พอกับการตัดสินใจ ขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ การใช้งาน และข้อมูลต่างๆที่ ลูกค้าต้องการเพิ่ม ที่สำคัญ นโยบายรับคืนสินค้า หลายเว็บไซต์มักเกรงปัญหาของคืน จึงไม่ได้ใส่เงื่อนไขสำคัญนี้ในเว็บของตน หรือบางเว็บไซต์ก็ใส่ข้อมูลที่เยอะมากเกินไป กว่าลูกค้าจะคลิกเข้าไปซื้อของได้ก็เสียเวลาเปิดเข้าไปในแต่ละหน้านานมาก หรือจัดรูปแบบไม่น่าสนใจ มีโฆษณาเยอะเกินไป หรือหน้าเว็บโหลดช้า ปัญหาพวกนี้คือสิ่งสำคัญของความล้มเหลวทั้งสิ้น
2. ไม่มีบุคคลกรที่ทำหน้าที่ดูแลเว็บไซต์โดยตรง เพราะบางครั้งการนำเสนอข้อมูลของเรานั้นขาดรายละเอียดที่จำเป็นบางอย่างไป ทำให้ บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้ หรือขาดความรู้ในการเข้าถึงเทคโนโลยีมีผู้ประกอบการหลายราย เปิดเว็บไซต์แล้ว ไม่ได้ตรวจอีเมล์ หรือตอบช้าเกินไป ทำให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้ารายอื่นที่ มีข้อมูลมากกว่าแทน
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ ที่จริงแล้วตรงนี้ผมพูมาเสมอนะครับ สำหรับแผนการตลาดและวิธีการประชาสัมพันธ์ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ หลายเว็บเกิดขึ้นมาแบบขาดการวางแผน เห็นธุรกิจอื่นมีเว็บกัน ก็แค่อยากมีกับเขาบ้าง ผมบอกตามตรงนะครับ การตลาดยังสำคัญเสมอในทุกตลาด ไม่เว้นแม่แต่ตลาดออนไลน์
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล อีกหลายเว็บยังให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลข่าวสารน้อย และอีกหลายเว็บบุคคลากรที่ทำหน้าที่นี้มักไม่ชำนาญพอ ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ ดังนั้น เมื่อเปิดเว็บแล้ว ต้องติดตาม ตรวจสอบสถิติ และพัฒนาเว็บไซต์ของตนให้ทันสมัยอยู่เสมอ หมั่นอัพเดตเว็บไซต์พยายามใช้ให้เป็นเครื่องมือของธุรกิจเข้าไว้
5. ให้ความสำคัญกับเทคนิคมากเกินไป มัวแต่หลงเทคโนโลยี การสร้างเว็บไซต์ ที่จริงผมเคยพูดมาแล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้ เพราะมีผู้ประกอบการหลายท่านหลงใหลกับเทคนิค แทนที่จะให้ความสำคัญกับการตลาด แต่กลับไปสนใจแต่เรื่อง ความงามของกราฟฟิก การตกแต่งเว็บ ใส่ภาพเคลื่อนไหว เสียงประกอบต่างๆ เข้าไป เพื่อหวังจะเรียกร้องความสนใจของผู้เข้าชม โดยลืมไปว่าสิ่งเหล่านี้ต้องทำให้ผู้ซื้อสินค้าเสียเวลาโหลดนานมากกว่าที่จะ ได้ดูสินค้าแต่ละหน้า และทำให้พลาดโอกาสไปเพราะบางทีไม่ว่าจะเป็นภาพ วีดีโอ เสียง บางทีลูกค้าก็ต้องการดูเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แต่ถ้ามันมีมากไปมันก็อาจเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนาก็ได้
6. ไม่กำหนดตลาดที่แน่นอน และผมก็เคยย้ำเสมอ สำหรับเรื่องการตลาด ที่จริงเราต้องศึกษาเรื่องลูกค้าและแผนการตลาดให้ดี ถึงแม้ว่าอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงคนได้ทั่วโลก แต่เราก็ไม่สามมารถที่จะขายสินค้าไปทั่วโลกได้หรอกนะครับ นั่นก็เพราะ ลักษณะการใช้ภาษาก็ดี, รูปแบบ, ราคาของสินค้าก็ดี ล้วนมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เมื่อได้ข้อมูลความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว ควรมุ่งเน้นไปยังตลาดกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่ประกาศทั่วไปโดยไม่สนว่าจะมีลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายของเราเข้ามาอ่านหรือไม่ ซึ่งการทำแบบไม่มุ่งกลุ่มลูกค้านั้นนอกจากเสียเวลาแล้ว ยังอาจเสียลูกค้าโดยไม่รู้ตัว เช่น ถ้าคุณขายสินค้าที่มีเกรดสูง ๆ คุณย่อมไม่ควรมีสินค้าที่มีตำหนิขายอยู่ในเว็บ
7. การออกแบบเว็บไซต์ที่ถูกต้อง การออกแบบเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ควรออกแบบให้ผู้ใช้ เข้าใจได้ง่าย และไม่เสียเวลามากนักในการเข้าใช้ สามารถค้นหาสินค้าได้สะดวก และชำระเงินได้โดยง่าย บางเว็บไซต์ ผู้ซื้อต้องกรอกข้อมูลมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และรู้สึกว่าใช้งานลำบาก ผมเคยเข้าซื้อสินค้าจากทางฝั่งยุโรป แต่พอจะกรอกข้อมูลสั่งซื้อ ผลปรากฏว่า 9 step สุดท้าย เปลี่ยนเว็บครับ เพราะมันดูยุ่งยากเกินความจำเป็น
ดังนั้นจากปัจจัยข้างต้น 7 ปัจจัย หวังว่าท่านควรทำการศึกษาและหลีกเลี่ยงมัน คงไม่มีใครหยิบเอาอันไหนไปใช้เพราะว่าผมไม่ต้องการให้ใครต้องมาล้มเหลวในโลกออนไลน์อีกครับ
เลือกหมวดหมู่ย่อยที่ต้องการอ่าน
All
คอมพิวเตอร์
Affiliate
Artisteer
Blog
Blogger
Browser
Cloud Computing
Computer
Design
Drop Shipping
E Bussiness
E Commerce
E Mail Marketing
E Marketing
Facebook
Fan Page
Gadget
Google Adsense
Google Buzz
Google Docs
Google Readder
Internet
Linkedin
M Commerce
Mlm
M Marketing
Ranking
Seo
Smo
Social Gadget
Social Media
Social Network
Software
Twitter
Viral Marketing
Website
Youtube