แต่ที่สุดแล้วก็มาติดที่คำถามสุดท้าย นั่นก็คือ จะทำอย่างไร? คำถามนี้ นักการตลาด หรือนักคอมพิวเตอร์หลายท่านมักจะหยุดชะงักไปไม่สามารถตอบได้ แต่ส่วนตัวผมไม่มีแน่นอนครับ ผมจะมาตอบ เราลองมาดุวิธีการทำนะครับ
นี่เป็นเคล็ดลับที่ใช้กันส่วนใหญ่ในการทำ Viral Marketing
กระต้นความรู้สึกของผู้เข้าชม
การที่จะทำให้ได้ผลดี ต้องคิดไว้เสมอว่าเมื่อผู้ชมดูแล้วต้องรู้สึก ตื่นเต้น เร้าอารมณ์ กระตุ้นความรู้สึก ที่รุนแรง เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างให้โฆษณาชิ้นนั้นมีการถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน รุนแรง การนำเสนอจะต้องให้ผู้ชมสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาได้เป็นคำพูด สามารถตัดสินสิ่งที่ถ่ายทอดออกมาได้ว่าต้องการสื่ออารมณ์แบบไหนออกมาซึ่งจะต้องเป็นการสื่อที่ให้ความรูสึกที่ชัดเจน ทำให้ผู้ชมรู้สึกรักหรือ เกลียด มีความสุข หรือกำลังโกรธอย่างไร้เหตุผล ไร้สาระ งี่เง่า หรือว่าดูฉลาดหลักแหลมอัจฉริยะเหลือหลาย น่าสงสาร น่าเวทนา หรือให้ความรู้สึกน่าเกลียด เห็นแก่ตัว แต่ทั้งนี้เมื่อเรานำเสนอโฆษณาเราก็ต้องมองดูผลในทางตรงข้ามด้วยเช่นกันเพราะโฆษณาต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะฉนั้นเราต้องทำให้มีคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราน้อยที่สุด เพราะฉนั้นถึงแม้ว่าคุณจะใช้รูปแบบโฆษณาที่กระตุ้นอารมณ์ หรือความรู้สึกมากเพียงใด เนื้อหาในโฆษราต้องสื่อที่เป็นกลางด้วยเช่นกัน
ทำสิ่งที่เหนือความคาดหมาย
การทำโฆษณาผมบอกตามตรงนะครับ การคิดที่บอกว่าจะทำให้โฆษณาออกมาดีที่สุด หรือ น่าสนใจที่สุด อันนี้ เป็นวิธีคิดที่ผิดไปอย่างยิ่ง เพราะวิธีการคิดแบบนี้ผมเชื่อว่าไม่ว่าใคร จะเป็นมือโปรมือสมัครเล่น มือใหม่ ล้วนแล้วแต่ชอบคิดแบบนี้เสมอ เพราะฉนั้น ถ้าคุณยังคิดแบบนี้ไม่ว่าโฆษณาคุณจะออกมาดีแค่ไหนก็ตามก็ย่อมไม่มีการตอบรับดีเท่าที่ควรนั่นก็เพราะว่า มันดูพื้น ๆ อย่างที่ทุกคนทำมาแล้ว ไม่ได้ต่างจากที่เห็นอยู่ทั่วไป เพราะฉนั้น เพมื่อคุณเป็นคนที่ต้องการทำโฆษณา สิ่งที่คุณต้องทำมันก็คือ เปลี่ยนวิธีคิดคือ คุณต้องคิดว่า โฆษณาแบบนี้มีใครทำมาก่อนหรือไม่ ถ้าไม่มีลองแหกกฏดูบ้าง อะไรที่ดูแล้วมันเหนือกฏเกณฑ์จากธรรมชาติจากวิถีที่เป็นอยู่ ก็ลองทำดูครับ มันจะทำให้คนดูสนใจในความแตกต่าง ทำให้คนดูสงสัย จนที่สุดกลายเป็นความสนใจ ของผู้ชม ไปในที่สุด
อย่าให้มันดูเป็นแค่การโฆษณา
สิ่งที่หลายคนมักจะทำไม่สำเร็จ ในการทำ Viral Marketing ก็คือ หลายคนมักจะคิดว่า Viral Marketing ก็คือการทำโฆษณา และก็ให้คนดูแนะนำโฆษณานั้นต่อๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งในความเป็นจริงมันแตกต่างออกไป ผมบอกตามตรงว่า Viral Marketing ไม่ใช่การส่งสแปม และก็ไม่ใช่การโฆษณาที่น่าเบื่ออย่างที่คุณเห็นหลายคนมัวแต่ไปเน้นว่า เราจะต้องเน้นโฆษณาที่มี ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทั้งเรื่อง รูปลักษณ์สีสรรค์คุณภาพ รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับสินค้า และจะใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น ใช้โฆษณา ที่มีดาราดัง ๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์และก็มาถือสินค้า คุณเดินโชว์ บนเวที แต่เชื่อผมเถอะครับ มันเป็นวิธีเก่า ๆ และมันก็ไม่ได้ผลหรอครับ เพราะคนที่มาร่วมงานก็สนใจแต่ดารา หรือพรีเซ็นเตอร์เท่านั้นล่ะครับ เขาไม่ได้สนใจสินค้าของคุณเลยเพราะฉนั้น เปลี่ยนวิธีใหม่ ๆ นะครับ ในการทำโฆษณา ในหลาย ๆ โฆษณาคุณจะเห็นได้ว่า เขาไมใได้เน้นเรื่องของตัวสินค้าสักเท่าไร แต่จะมุ่งไปที่การสร้างสรรค์เรื่องราวดีดีและน่าสนใจมากกว่า
อย่างเช่น BMW ตอนที่ทำหนังโฆษณาของ BMW ออกมา หัวใจหลักของหนังโฆษณาไม่ได้เกี่ยวกับรถเลย แต่เป็นเรื่องราว ซึ่งก็เป็นโฆษณาที่ดูเยี่ยมยอดทีเดียว หรืออย่าง Sony ที่ทำโฆษณาทีวี Bravia ออกมา แม้จะเป็นสินค้าที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แต่ก็ไม่มีใครที่จะจำมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ชัดว่าสินค้าไม่ใช่สวิ่งจะเป็นสำหรับโฆษณาอีกต่อไป แต่มันคือเรื่องราว และก็เทคนิคที่นำเสนออกมาต่างหาก ที่ทำให้มีคนสนใจหรือ
มีเรื่องราวที่ต่อเนื่อง
ถ้าคุณเป็นเซียนในการทำโฆษณา สิ่งที่คุณต้องติดตามก็คือในเรื่องของผลการตอบรับโฆษณา แน่นอนว่าโฆษณาของคุณอาจมีการตอบรับดี และทำให้คนดูลุ้นมีความรู้สึกสนใจแบบสุด ๆ และต้องการดูมันอีกซ้ำไปเรื่อย ๆ อีก 2-3 รอบ จนจดจำโฆษณาของคุณได้ขึ้นใจ แต่ปัญหาของมันก็คือหลังจากที่โฆษณาคุรได้การตอบรับดีคุณก็มักจะเอาเวลาทั้งหมดไปมุ่งกับสินค้าจนคุณลืมโฆษณานั้นไปเลยซึ่งมันเป็นวิธีการที่ผิดครับ ในการทำโฆษณา ผมบอกตามตรงว่าหลังจากที่คุณทำโฆษณาออกมาได้รับการตอบรับ สิ่งที่เกิดขึ้นคือคนดูจะสนใจโฆษณานั้นเป็นพิเศษ และสิ่งที่คุณต้องทำต่อไปมันก็คือการ คิดค้นตอนต่อไปของโฆษณา ผมบอกตามตรงว่ามันจะได้ผลมากทีเดียวในการนำเสนอ เพราะคนดูให้ความสำคัญกับโฆษณาของคุณอยู่แล้ว และเมื่อมีโฆษณาที่เป็นตอนต่อ โฆษณาของคุณจะได้รับความสนใจมากทีเดียว
เปิดให้แชร์ ดาวน์โหลด และเอาไปโชว์บนเว็บไซต์อื่นๆ ได้
การแชร์ คือหัวใจของการทำ Viral Marketing เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพยายามรังสรรค์ขึ้นมานั้นจะต้องทำให้แคมเปญโฆษณา ชิ้นนั้นส่งต่อๆ กันไป เพื่อแบ่งปันกับผู้อื่นง่ายที่สุด นั่นหมายความว่า คุณต้องอนุญาตให้ผู้ชมทำสิ่งเหล่านี้ได้ นั่นคือ
- ดาวน์โหลดคอนเท็นต์ในรูปแบบไฟล์ทั่วๆ ไปที่ใช้กัน เช่น ไฟล์รูปภาพในรูปแบบของ JPG, ไฟล์วิดีโอในรูปแบบของ MPG เป็นต้น
- ต้องทำให้คนดูสามารถนำคอนเท็นต์ที่คุณสร้างขึ้นมาไปโพสต์บนเว็บไซต์ของเขา ได้ ซึ่งขนาดของไฟล์ก็มีความสำคัญ เพราะถ้าใหญ่เกินไปก็ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำไม่สามารถเปิดดู ผ่านออนไลน์ได้
- ยอมให้ส่งต่อไปยังเพื่อนหรือผู้อื่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะส่งเป็นลิงก์ไปให้ หรือจะให้ส่งคอนเท็นต์นั้นไปยังผู้อื่นโดยตรงก็ได้
- นำไปโพสต์ไว้หลายๆ เว็บไซต์ เช่น Digg.com, YouTube.com เป็นต้น
- อนุญาตให้ผู้ชม Add เว็บไซต์นั้นเข้าไปใน Bookmark ของเขาเอง
Note : คุณสามารถทำให้ง่ายขึ้นได้ ด้วยการสร้างไอคอน “share me”, “dig this” หรืออะไรก็แล้วแต่ให้ผู้ชมรู้ว่าเป็นการส่งไปต่อไปยังคนอื่นขึ้นมา
เปิดแสดงความคิดเห็น และบทวิจารณ์
ผมบอกตามตรงนะครับว่าการแสดงความคิดเห็นและการววิจารณ์มันเป็นหัวใจหลักของการทำ Viral Marketing เลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่าการทำ Viral Marketing มันหมายถึงการที่คุณจะเข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้ชมจนผู้เข้าชมนำไปบอกต่อ เพราะฉนั้นการแสดงความคิดเห็นและการวิจารณ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว หลายคนกลัวว่า จะมีใครมาติหรือวิจารณ์ในทางที่ไม่ดี ผมบอกตามตรงนะครับว่านั่นอาจเป็นโอกาสของคุณก็ได้ คุณอาจเห็นดาราหลายคน จะมีชื่อเสียงขึ้นมากหลังจากที่มีข่าวในแง่ลบ หรือสินค้าหลายตัวเป็นที่รู้จักหลังจากที่ทำโฆษณาฉาวออกมา(แต่ผมไม่แนะนำให้คุณทำโฆษณาฉาวหรือข่าวเสียนะครับ ผมแค่บอกว่าไม่ต้องกลัวข่าวในแง่ลบ) เพราะงั้นเปิดวิจารณ์เปิดแสดงความเห็นให้เต็มที่ครับและที่สำคัญคุณก็ต้องปฏิสัมพันธุ์กับผู้ชมด้วย มาตอบทุกครั้งหลังจากที่มีคำถาม จากผู้ชมนะครับ
อย่าจำกัดการเข้าชมเด็ดขาด
Viral Marketing เป็นการสร้างแคมเปญการตลาดที่ทำให้มันมีชีวิตด้วยตัวเอง เหมือนกับการทำงานของไวรัส ซึ่งจริงๆ แล้วคำว่า Viral เป็นคำ Adjective มีความหมายว่า เกี่ยวกับ หรือเกิดจากเชื้อไวรัส (Virus) ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่รูปแบบการทำงานในแบบ Viral Marketing จะเหมือนกับไวรัสที่ต้องการอิสระ เพื่อส่งต่อไปยังผู้อื่นได้ง่ายๆ เพียงแต่ไม่มีอันตราย หรือน่ารังเกียจเหมือนกับไวรัสเท่านั้นเอง
จะเห็นได้จากหลายเว็บนะครับ เช่น ต้องสมัครสมาชิกก่อนเข้าชม ต้องลงทะเบียนอีเมลล์ไว้แล้วจะส่งลิงค์ไปให้ จะต้องมีโปรแกรมเสริมก่อนที่จะเข้าดูได้ ซึ่งผมบอกตามตรงเลยนะครับ เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดมันคือ อุปสรรค์ในการทำ Viral Marketing เลยล่ะครับ เพราะฉนั้นเว็บไซต์ผมเองเข้าดูได้ฟรีตลอดทั้งเว็บครับ ยกเว้นส่วนที่เป็น Social Network และก็เว็บบอร์ดที่ต้องสมัครสมาชิก ซึ่งที่ต้องให้ท่านสมัครสมาชิกในส่วนนี้ก็เพราะว่าเผื่อเอาไว้ว่าเราเปิดบริการอะไรใหม่ ๆ หรือมีเรื่องน่าสนใจเร่งด่วนจะได้บอกกับท่านที่ลงทะเบียนไว้ได้เลยไงครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้เลย ผมจะไม่สามารถแจ้งข่าวสารได้เพราะงั้นกรุณาลงทะเบียนไว้นะครับ แต่ท่านก็สามารถที่จะเข้าชมได้โดยไม่ต้องล็อกอินด้วยเช่นกัน
จากวิธีการทั้งหมดที่กล่าวมาผมเชื่อว่าหลายท่านได้ลองใช้มาบ้าง แต่หลายท่านก็ยังต้องปรับปรุงอยู่อีกมากเพราะงั้น ลองศึกษาและลองทำดูนะครับ ผมเอาใจช่วยของให้ประสบความสำเร็จนะครับ
เลือกหมวดหมู่ย่อยที่คุณต้องการอ่าน
All
คอมพิวเตอร์
Affiliate
Artisteer
Blog
Blogger
Browser
Cloud Computing
Computer
Design
Drop Shipping
E Commerce
E Commmerce
E Mail Marketing
E Markering
E Marketing
Facebook
Fan Page
Gadget
Google Adsense
Google Buzz
Google Docs
Google Readder
Internet
Linkedin
M Commerce
Mlm
M Marketing
Seo
Smo
Social Gadget
Social Media
Social Network
Software
Twitter
Virul Marketing
Website
Youtube