เตรียมตัวคุณให้พร้อม และเตรียมเนื้อหาให้พร้อม เนื้อหาของเว็บไซต์สำคัญกว่าชื่อโดเมนเสียอีก ถ้าหากคุณคิดชื่อโดเมนได้ แต่ไม่มีเนื้อหา คนเข้ามาก็จะรู้สึกแย่กับเว็บคุณ แล้วก็จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลย! ทางที่ดี ควรจะเผื่อเนื้อหาไว้ให้พร้อมซัก 100 หน้าเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญๆก็อย่างเช่น About Us หรือ Company Profile, Contact Us, Privacy Policy, Terms of Agreement เป็นต้น และถ้าเป็นไปได้ ต้องเป็นเนื้อหาที่หาที่ไหนไม่ได้ ตรงมาอ่านที่เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น จะเยี่ยมมากๆ
2) ชื่อโดเมน :
ต้องเน้นให้ จำง่าย, พิมพ์ง่าย ยิ่งพยางค์น้อย หรือน้อยตัวอักษรได้เท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าจะให้ดีมี keyword สำคัญๆ ของคุณอยู่ในโดเมนด้วยยิ่งดี ส่วนจะออกมาแนวไหนก็แล้วแต่คนชอบครับ ว่าจะเอาแบบไทย ๆ ใช้คำโบราณ ๆ หรือจะเอาแบบอินเตอร์ก็ได้ครับ
3) ออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้ใช้ง่าย และตรงกับกลุ่มเป้าหมาย :
เอาแบบเรียบ ๆ ไว้ก่อนดีแล้วครับ เพราะว่า ไม่ว่าจะอย่างไง ถ้าหน้าตาเว็บไซด์ออกมาเรียบง่ายดูสบายตา ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถนำมาใช้ได้ง่าย อีกทั้งระบบค้นก็จะค้นหาเจอได้ง่าย เพราะถ้ามีความเรียบง่ายก็จะไม่ต้องใส่โค๊ดที่ยุ่งยากมากนักลงไป กูเกิลก็จะค้นหาข้อความและเนื้อหาในเว็บเราได้ง่ายครับส่วนจะง่ายขนาดไหนอันนี้มีหลัการคิดง่าย ๆ ครับ
ให้ลองนึกไปถึงวันแรกๆที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ เล่นอินเทอร์เนต คุณคงจะรู้สึกว่าอะไรมันก็ยากไปหมดขนาดเมาส์ยังบังคับยากเลย และนี่แหละเป็นเรื่งที่คุณต้องคิดคนเข้าใช้ไม่ใช่จะเก่งทุกคน นักเล่นบางคนยังเล่นอินเตอร์เน็ตไม่คล่องเลย เพราะเขาไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับตรงนี้มาโดงตรงนี่ครับ ปกติก็เข้าเล่น MSN อย่างเดียว พอถึงเวลาได้ใช้ก็เล่นไม่เป็นเลย เพราะงั้น เป็นเรื่องที่คุณต้องคิดอย่างมากเลยครับ
หรือไม่คุณก็ลองไปหาหนูทดลอง ไปสรรคหาคนทดลองใช้สัก 2-3 คน แต่เขาต้องไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเว็บคุณมาเลยนะครับ และก็ให้เขามาลองอ่านมาหาข้อมูลในเว็บคุณดู และดูซิ ว่า 20 นาทีผ่านไป เขาจะได้ข้อมูลนั้นหรือเปล่า ถ้าได้ก็ไม่มีปัญหา ถ้าไม่ได้ คิดใหม่ทำใหม่ครับ และที่สำคัญจะต้องไม่ใช่เรื่องราวที่มีบนหน้าแรกนะครับ เรื่องราวย้อนหลังคุณก็ต้องมีโอกาสค้นหาได้ง่ายด้วยเช่นกัน
และอีกอย่างที่ผมจะพูดเสมอในหลายบทความครับ ต้องเตรียมอำนวยความสะดวกให้กับโปรแกรมค้นหาด้วยครับ เพราะเว็บจะต้องมีเรื่องของ title และต้องมี keyword ทั้งในเนื้อหาและนอกเนื้อหา และอีกอย่าง อย่าให้เว็บเพจโหดช้าเกินไปครับ เพราะงั้นคุณต้องมีการจัดการครับ เช่น จัดสรรค์เรื่องเด่นเรื่องดังไปไว้หน้าแรกครับ จะได้โหลดเว็บเพจได้เร็วขึ้นไม่ดูน่าเบื่อ
4) ขนาดของข้อมูลในแต่ละหน้า (File Size) :
ไม่ควรใส่เนื้อหาในเว็บเพจในเว็บมากเกินไปครับ เพราะว่า เว็บเพจจะต้องไม่ใหญ่มากเกินไป เว็บเพจใหย่โหลดช้า และก็ยังไม่เป็นผลดีต่อโปรแกรมค้นหาอีกด้วยครับ เพราะงั้นมาถึงตรงนี้ สิ่งที่ต้องทำคือ จัดการ เนื้อหาที่ไม่จะเป็น แท็กที่ไม่ใช้ จาวาสคิป ถ้ามันไม่จำเป็นต้องใส่ก็ลบมันทิ้งไปครับ ขนาดของเว็บเพจจะได้เล็กลง
5) เนื้อหา :
เนื้อหาในเว็บไซด์กับคียเวิร์ดจะต้องตรงกันครับ และก็จะต้องครอบคลุม และก็น่าสนใจ รงมทั้งในการอัพเดตเว็บไซตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาอ่านได้บ่อย ๆ เนื้อหาเราต้องไม่จำเจครับ มีเนื้อหาที่น่าสนใจให้ผู้อ่านได้อ่านอยู่ตลอดเวลา
6) จำนวน Keyword และการจัดวางตำแหน่งในแต่ละหน้า :
จัดคียเวิร์ดให้ถูกหน้าครับ คีย์เวิร์ดอันไหนอยู่หน้าไหน จัดวางให้ถูกต้อง หน้าไหนไม่มีคำแบบนั้น หรือไม่มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดนั้นก็ไม่ต้องใส่ครับ ลบออกไปได้เลย จะเป็นผลดีอย่างมากครับ ไม่เสียเวลาที่ระบบค้นหาจะเข้ามาค้นข้อมูลในเว็บเรา เพราะงั้นอันนี้ตองจัดการให้ถูกด้วยครับ
7) การเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่นๆ :
เชื่อมโยงถึงเว็บไซต์ใหญ่ๆ ด้วย Keyword ในหน้านั้นเป็นการอ้างอิงให้ผู้เข้าชมเชื่อถือ แถมยังอ้างให้ Search Engine รู้ด้วยว่าเราเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆได้ง่ายยิ่งขึ้น (Ralate Link) เพราะเว็บไซต์ใหญ่ๆนั้น Search Engine รู้จักดีอยู่แล้ว เมื่อเราอ้างถึงเว็บไซต์นั้นๆ Search Engine จะสร้างความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณ กับ Keyword ที่คุณ link ออกไป เปรียบเหมือนการแนะนำตัวกับ Search Engine เว็บไซต์ของเราอยู่หมวดหมู่ไหนนั่นเอง
8) โครงสร้างของการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของ คุณ (Cross Links หรือ Link Structure) :
ลิงค์ภายในหน้า ที่ลิงค์แต่ละบทความอันนี้สำคัญพอสมควรเลยครับ เพราะ เนื้อหาตรงนี้จะต้องสอดคลองกัน ถ้ามันแตกต่างกันเกินไป มันทำให้ดูมั่วครับ แต่ถ้ามันใความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง จะทำให้ผู้ใช้เข้าดูลิงค์นั้นด้วย ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
9) ได้เวลาออนไลน์ :
ในตอนที่เราเลือกโฮสต์ก็ช่วยเลือกที่มันดีสักนิดหนึ่ง ที่มันไม่ร่มอ่ะครับ แต่ว่าเอาแบบไอพีเดียวก็ได้ไม่จำเป็นต้องไปลงทุนอะไมากมาย แต่ใส่ใจกับความมั่นคงของเว็บสักนิดครับ ถ้าเข้า ๆ หลุด ๆ ไม่ไหวครับ ดูเลเรื่องนี้ให้มาก ๆ หน่อยละกันครับ ผู้ใช้จะได้ไม่เบื่อ
10) ลงทะเบียนเว็บ
ได้เวลาของการโฆษณาแล้วครับ ขั้นตอนนี้คือการเอาเว็บของคุณไป submit ตาม search engine ต่างๆ เท่านี้แหละครับ อย่าไปคาดหวังว่าจะได้รับการจัดอันดับในเร็ววันครับ คอยตรวจสอบบ้างสัปดาห์ละครั้งก็พอ
11) ตรวจสอบและติดตามผล :
อันนี้ต้องตรวจสอบสม่ำเสมอครับ ว่ามีคนเข้ากี่คน แบบไหน เก็บสถิติผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเราสามารถเก็บได้มากมายหลายวิธี เพราะงั้นเลือกวิธีเก็บให้เหมาะสม ที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดพอ ถ้าเว็บคุณไม่สามารถวิเคราะห์เว็บ สถิติได้ในตัวเองก็ไปลงทะเบียน Google analytics ใช้ได้ดีแน่นอนครับ ผมเองก็ใช้อยู่เก็บได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ
12) ตรวจสอบโปรแกรมค้นหา :
ตรวจสอบดูครับว่าโปรแกรมค้นหาเข้ามาอัพเดต หรือเก็บข้อมูลในเว็บเราหรือเปล่าวิธีการก็ไม่ยากเลยครับ อย่างเช่นผมจะตรวจสอบเวบผม ว่ากูเกิลได้อัพเดตข้อมูลในเว็บผมหรือเปล่า ผมก็ใช้วิธีนี้เลยครับ พิมพ์คำสั่ง site:www.suntzu.tk ลงไปเลยครับ จะเห็นว่ามีหน้าเว็บผมขึ้นมาเยอะเลย นั่นหละแสดงว่ากูเกิลเข้ามาอัพเดตข้อมูลในเว็บเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอันนี้ ตวจสอบเว็บคุณใหม่ว่าไปขัดใจโปรแกรมค้นหาตรงไหนหรือเปล่า ถ้าหาไม่เจออีก หาพันธมิตรด่วนเลยครับ ก่อนที่จะเจ้ง ๆ
13) จัดหมวดหมู่ให้เรียบร้อย เน้นเข้าใจง่าย ใช้ง่ายเป็นหลัก :
พยายามจัดหมวดหมู่ของ keyword ให้เป็นเรื่องเดียวกับ topic ของมันครับ อันนี้ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่แยกหมวดหมู่ออกให้ดูเข้าใจง่าย รวมถึง จัดคีย์เวิร์ดให้สอดคล้องกับเนื้อหานั้น ๆ เลยครับ
14) Links จากเว็บประเภทเดียวกัน :
อย่าคิดหากินคนเดียว อย่าเด่นเว็บเดียวครับ อันนี้ไม่ไหวแน่ครับ เพราะงั้น ตองแลกลิงค์กับเว็บอื่นบ้างเพื่อให้เขา ได้นำเสนอเว็บคุณและคุณก็นำเสนอเว็บเขา จะได้เป็นพันธมิตรกัน ในการแลกเปลี่ยน ถ่ายเทผู้ใช้ซึ่งกันและกันอ่ะครับ
15) เนื้อหาๆๆ :
มีเรื่องเด่น ๆ ในแต่ละวัน หาวิธีไหนก็ได้ครับ ตรวจสอบเรื่องที่ได้รับความสนใจและนำเสนอออกไปเป็นเรื่องเด่นประจำวัน อันนี้เป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้ผู้อ่านสนใจ แม้เขาจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลย แต่ถ้าเขาเห็นว่าเรื่องนั้นมีคนอ่านเยอะดูเด่น เขาก็จะคลิดเข้าไปดูเองครับ
16) ลูกเล่น ต่างๆ :
ลูกเล่น ใส่น้อย ๆ ลงบ้างครับ มีบ้าง แต่ถ้ามันไม่จำเป็นจนเกินไป ไม่เป็นผลดีครับ เพราะมันน่ารำคาญสำหรับผู้ใช้ อีกทั้งโปรแกรมค้นหามักไม่ชอบลูกเล่นพวกนี้เลย ดังนั้น ควรจะหลีกเลี่ยง แต่ไปเน้นเรื่องของการจัดหน้าตา และวางเนื้อหาให้ดูหน้าสนใจแทน
18) Link จากเว็บพันธมิตร :
อันนี้ก็เป็นการแลกลิงคืเหมือน ในข้อ 14 แหละครับ แต่ข้อ 14 เราเน้น เว็บประเภทเดียวกันเพราะเราต้องการผู้ใช้จากเว็บเขาให้เข้าดูเว็บเรา แต่ในข้อนี้เราสามารถแลกได้กับทุกเว็บเลยครับ เพราะว่าข้อนี้เราจะเน้นที่การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโปรแกรมค้นหา เพราะว่า ในการค้นหา ถ้าโปรแกรมค้นหาไปเจอลิงค์คุณในหลาย ๆ เว้บ โปรแกรมค้นหาก็จะจัดอันดับความน่าเชื่อถือเว็บคุณไว้ในลำดับต้น ๆ เช่นกันครับ
19) บริการเสริม:
อันนี้ต้องมีบ้างครับ เช่นส่งให้เพื่ออะไรประมาณนี้ หรือจะใช้แชร์เหฟซบุ๊ค แชร์ทวิตเตอร์ก็ได้เช่นกันครับ เพื่อให้ผู้ใช้ไดด้มีโอกาศเอาพวกนี้ไปเผยแพราต่ออีกทีครับ
20) อย่ายัดเยียดโฆษณา!:
การจัดวางโฆษณา ในเว็บเราจริงอยู่ครับ ต้องมีโฆษณาบ้างไม่มาก็น้อย แต่ทั้งนี้การจัดวางก็ต้องเหมาะสมครับ ไม่ใช่มากจนน่ารำคาญ ต้องมีบ้าง และจัดวางอย่างเหมาะสม
21) เพิ่มเนื้อหา หรือ สินค้า บ่อยๆและสม่ำเสมอ:
อัพเดตอย่างสม่ำเสมอครับ อย่าให้เว็บไศต์ตาย ต้องมีเนื้อหาแปกใหม่ให้ผู้ใช้ได้อ่านอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เขาได้กลับมาอ่านอีก และจะได้ไม่ผิดหวังดังนั้น จะต้องหาเนื้อหาที่ดีดี และนาสนใจมาใส่อย่างสม่ำเสมอ
22) เรียนรู้เรื่อง Logs:
นำสถิติมาใช้ให้เป็นประโยชน์ มาถึงตรงนี้เราพูดถึงการเก็บสถิติ ไปตั้งแต่ ข้อ 11 แต่ข้อนี้เราต้องเอามาใช้ครับ เราต้องศีกษาดูว่าผู้ใช้ เข้าเว็บเราด้วยวิธีไหน และในการค้นหาโปรแกรมค้นหา หรือผู้ใช้สนใจคีย์เวิร์ดอันไหนมากที่สุดในเว็บไซต์คุณจากนั้นก็เอามาเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะดำเนินการแบบไหนต่อในเว็บไซด์คุณ เช่น มาจากการโฆษณา ก็จะต้องวางแผนว่าจะต้องเพิ่มโฆษณาหรือไม่ แต่ถ้ามาจากโปรแกรมค้นหา ก็ตรวจสอบคีย์เวิร์ด และก็เขียนเนื้อหาให้เกี่ยวกับคีย์เวิร์ดนั้นมากๆ หน่อย จะได้เรียกผู้ใช้ได้เยอะ ๆ
23 ) การประมาณระยะเวลา:
เมื่อทำให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมแล้ว ไม่ได้ทำให้คุณหมดหน้าที่ไป เพราะคุณยังคงต้องเฝ้าประคบประหงม เว็บของคุณให้ติดอันดับต่อไปอีก เหมือนขี่หลังเสือไม่อาจจะลงได้ การวิเคราะห์ความเป็นไปก็ยังต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะครับว่า กว่าที่ keyword ของคุณจะไปปรากฎใน search engine อาจจะใช้เวลานานถึง 3 เดือน เช่นถ้าคุณต้องการให้ผลิตภัณฑ์ของ คุณปรากฏอยู่ใน search engine ในตอนต้นปี คุณอาจจะต้องทำ web ให้เสร็จก่อนหน้านั้นถึง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
24) เพื่อนและพันธมิตร:
ในโลกออนไลน์ เราก็ควรที่จะติดต่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคนในวงการเดียวกับบ้างเพราะว่า ปัจจุบันมีเว็บไวต์มากมายที่จะทำให้เราได้เาไปศึกษาข้อมูลและมีการดานสนทนา หรือเว็บบอร์ดให้เราได้พูดคุยกัน ดังนั้นก็เข้าไปแลกเปลี่ยนพูดคุยบ้างทั้งนี้ ก็อย่าลืมใส่เว็บคุณต่อท้าย ทุก ๆ การตั้งคำถามและการตอบด้วยล่ะ
25) ทำอย่างสม่ำเสมอ
ทุกขั้นตอนที่พูมาใช่ว่าทำสำเร็จแล้วจะเลิกได้ เเพราะงั้น เราต้องทำทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรละเลย แม้แต่ขั้นตอนเดียว ทำบ่อย ๆ เดียวก็รุ่งเองครับ