เราได้เห็นปูกันมาแล้ว ถึง 2 ชนิด คือ ปูแมงมุมญี่ปุ่น กับปูมะพร้าว คราวนี้เรามาลองดูปูแปลก ๆ กันบ้างครับ มาดูถึงปูที่มันมีลักษณะไม่ธรรมดา นั่นคือปูเยติ ส่วนมันจะไม่ธรรมดาแบบไหนเราลองมาทำความรู้จักกันเลยครับ
ปูเยติ ( Yeti Crab ) จะมีขนสีขาวปกคลุมบริเวณ ก้าม และขาของปู ซึ่งทำให้มันเหมือนกับตัวเยติ ( Yeti ) แห่งยอดเขาฮิมาลัย ( Himalaya ) ซึ่งเป็นที่มาขอชื่อ " ปูเยติ " ซึ่งทำให้มันไม่เหมือนกับสี่งมีชีวิตอื่นๆ มันถูกค้นพบในทะเลลึก ของมหาสมุทรแปซิฟิก ( South Pacific ) ห่างไปทางใต้ของเกาะอีสเตอร์ 1500 กิโลเมตร ในน่านน้ำของประเทศชิลี ( Chile )
การค้นพบนี้เกิดขึ้นขณะที่กำลังทำการสำรวจโดยใช้เรือดำน้ำ ( submersible vehicles ) ที่ความลึกกว่า 1250 กิโลเมตร ขณะนั้นกับพบว่ามีอะไรบางอย่างเกาะอยู่บริเวณใกล้รอยแยกที่พื้นทะเล ที่มีน้ำแร่ร้อน เรียกว่า " hydrothermal vents " มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน และจากรูปลักษณ์ที่มีขนสีขาวปกคลุม คล้ายกับตัว เยติ ทำให้มันได้รับชื่อว่า ปู เยติ และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า " Kiwa hirsuta "
การค้นพบนี้เกิดขึ้นขณะที่กำลังทำการสำรวจโดยใช้เรือดำน้ำ ( submersible vehicles ) ที่ความลึกกว่า 1250 กิโลเมตร ขณะนั้นกับพบว่ามีอะไรบางอย่างเกาะอยู่บริเวณใกล้รอยแยกที่พื้นทะเล ที่มีน้ำแร่ร้อน เรียกว่า " hydrothermal vents " มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อน และจากรูปลักษณ์ที่มีขนสีขาวปกคลุม คล้ายกับตัว เยติ ทำให้มันได้รับชื่อว่า ปู เยติ และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า " Kiwa hirsuta "
หลังจากการค้นพบหนึ่งปีนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษา ปูเยติ ต่างลงความเห็นว่ายังมี "มีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับ ปูเยติ ที่พวกเรายังไม่เข้าใจมัน" และหนึ่งในปริศนานั้นก็คือ
* ขนจำนวนมากที่ปกคลุม ก้าม และขา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่า บนเส้นขนเป็นกับดักแบตเทอร์เลีย ที่ปูเย ติใช้หาอาหาร แต่มีบางคนแย้งว่าเชื้อเหล่านั้นมีหน้าที่เป็นตัวกรองแร่ธาตุที่มีพิษ ที่พ่นออกมาจากช่องใต้ทะเล
* การที่ปูเยติ ยื่นก้ามเข้าไปในน้ำแร่ร้อนที่พ่นออกตามรอบแยกของพื้นทะเลเพื่ออะไร
* ขนจำนวนมากที่ปกคลุม ก้าม และขา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางคนบอกว่า บนเส้นขนเป็นกับดักแบตเทอร์เลีย ที่ปูเย ติใช้หาอาหาร แต่มีบางคนแย้งว่าเชื้อเหล่านั้นมีหน้าที่เป็นตัวกรองแร่ธาตุที่มีพิษ ที่พ่นออกมาจากช่องใต้ทะเล
* การที่ปูเยติ ยื่นก้ามเข้าไปในน้ำแร่ร้อนที่พ่นออกตามรอบแยกของพื้นทะเลเพื่ออะไร