กำหนด title อันนี้นักทำเว็บไซด์ต้องรู้จักกันดีแน่นอนครับ วิธีการใส่ ก็ใส่ข้างในแท็ก <Title> เพราะส่วนนี้เองที่จะบอกว่าเว็บเราเป็นเว็บไซด์อะไร เกี่ยวกับอะไร เรื่องอะไรเป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ควรทราบถึง ผู้ใช้ด้วยเช่นกัน เช่น ว่าผู้ใช้ ค้นหาคีย์เวิร์ดอะไรบ่อยที่สุด จะช่วยให้เราเลือก ไตเติลที่โดนใจมากขึ้นครับ แต่ปัญหาคือเราจะทราบได้อย่างไร อันนี้ก็ไม่ยากเลยครับ ลองเข้าไปดูที่ http://truehits.net/trend/ อันนี้เขาอัพเดตให้เราเห็นเยอะครับ ดังนั้น ลองเข้าไปดูก่อนเขียนไตเติลครับ
กำหนด <meta >
อันนี้ก็สำคัญครับ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่อธิบายเว็บไซด์โดยตรงส่วนนี้จะเป็นเรื่องของคำหลักในการอธิบายหน้าหรือเว็บไซด์นั้น Search Engine จะใช้เป็นคำค้นหา ที่รองมาจากที่ค้นหาจาก title แล้ว ในส่วนนี้สามารถกำหนดได้เยอะครับ แต่เน้นเป็นคำสั้น ๆ ที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาไดง่าย เจอได้ง่าย และตรงกับคำที่ผู้ใช้ค้นหา
หัวข้อพยายามใช้ ดัวหนา หรือ หรือ <h1>
อันนี้จะเป็นการเน้นคำที่เป็นหัวข้อหลัก ๆที่จะช่วยให้ Search Engine เข้าใจ และทราบว่า คำเหล่านั้น มันคือ คำหลัก หรือหัวข้อหลักนั้น ๆ ดังนั้น ตรงส่วนนี้ ก็จะเป็นอีกส่วน ที่ Search Engine สามารถค้นเจอ และ รู้ว่า นี้คือคำที่เราต้องการเน้นและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่ง Search Engine จะให้ความสำคัญและน้ำหนักกับ Key Word เหล่านี้
เน้นการใช้ตัวหนังสือ
จะเห็นว่าผู้ใช้หลายราย ทำเว็บด้วย flash ซึ่งแน่นอนครับมันสวยงามมาก บางท่าน ลดเทคนิคลงมาหน่อย ใช้รูปภาพเยอะ ๆ มาก ๆ ดังนั้นเวลาเราค้นหา เราก็จะพบว่า หาเจอยากมาก ๆ เลยครับ อันนี้ก็เป็นเพราะ Search Engine จะอ่านโค๊ด ถ้ามีรูปภาพเยอะ ความสำคัญก็จะน้อยลง เพราะ Search Engine ไม่ได้เข้าใจรูปภาพนั้นเหมือนกับที่เรามาดูภาพแล้วเข้าใจแบบนี้ ที่สำคัญ ยิ่ง ถ้าเป็น flash Search Engine จะแทบไม่รู้เลยว่า เว็บไซด์คุณมีอะไร เกี่ยวกับอะไร และก็น่าสนใจอย่างไง ดังนั้น เน้นตัวหนังสือให้มากขึ้นครับ Search Engine จะได้รู้จักเว็บไซด์คุณมากขึ้น
ไม่ควรใช้เฟรม
แน่นอนครับ สมัยผมเรียน ออกแบบเว็บไซด์ไม่ค่อยเป็นก็เล่นเฟรมนี่แหละ ง่ายดี เป็นระเบียบด้วย แต่ในความเป็นจริง อันนั้นมันเป็น ทฤษฎีครับ ไม่ใช่หลักปฏิบัติ เพราะหลักการปฏิบัติ ควรอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ใช้ เหตุผล เพราะ ถ้าคุณแบ่งเว็บเป็นเฟรม Search Engine จะไม่รู้เลยว่า เว็บไซด์คุณเป็นเว็บไซด์เกี่ยวกับอะไร มีข้อมูลอะไรบ้างด้านใน เพราะตอนที่ Search Engine เข้าไปอ่าน ระบบจะอ่าน เฉพาะ หน้าเฟรมหลักเท่านั้นครับ
ใช้โค๊ดที่เหมาะสม
ตรงนี้ นักออกแบบเว็บไซด์ทั้งหลายรู้กันดีครับ ตอนที่เรากำหนดโค๊ด จาวาสคริป เข้าไป จะให้โค๊ดเว็บไวด์เรามันยามเอามาก ๆ แถมยังเข้าใจยากอีกต่างหาก อันนี้ก็มีผลครับ การที่ Search Engine ตรวจสอบ ถ้าเราใส่โค๊ดอะไรต่อมิอะไรเยอะเกินไปก็จะทำให้ ยากต่อการค้นหาเช่นกันครับ ดังนั้น ก็ควรลดโค๊ดที่ไม่จำเป็นออกไปครับ ใช้โค๊ดพื้นฐานก็พอ ไม่ใช้ table มากเกินไป ลดการใช้ JavaScript และ CSS เท่าที่จำเป็นเท่านั้น (หรือไม่ก็นำ โค๊ดพวกนี้แยกไว้ต่างหาก แล้วค่อยเทรกเข้ามาครับ)นอกจากนี้ คำค้นหาสำคัญๆ ควรอยู่ส่วนบนๆของเว็บเพจให้มากที่สุด
ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ และใส่คำอธิบายให้กับภาพ
คุณ ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพที่ตรงกับ Keyword ที่คุณต้องการ และควรใส่คำอธิบายภาพ โดยใช้แท็ก <alt> คำอธิบาย </alt> เพื่อทำให้ Search Engine รู้ว่าภาพที่คุณใส่เข้าไปในเว็บไซต์คุณคือภาพอะไร และเกี่ยวกับอะไร ซึ่งจะมีผลต่อการค้นหาของ Search Engine ด้วย
ใส่ คีย์เวริด์ ให้หนาแน่น ภายในหน้าเว็บไซต์
การ ที่ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมี Key Word ที่ซ้ำๆ หลายๆ คำในหน้านั้นๆ (Key Word Density) นั่นหมายถึงหน้าๆ นั้นของคุณมีข้อมูลและเรื่องราวที่เกี่ยวกับคำๆนั้น ซึ่ง Search Engine ให้ความสำคัญกับส่วนนี้ เช่นกัน ซึ่งควรจะมีการซ้ำๆ กันของ Key Word ในหนึ่งหน้าเว็บ ไม่ควรเกิน 20% ซึ่งหากใส่มากเกินไปจะกลายเป็นการ Key Word Spamming ซึ่งอาจจะทำให้เว็บไซต์คุณโดนบล็อกไปเลย
ขนาดไฟล์ HTML ของหน้าเว็บไซต์ไม่ควรใหญ่เกินไป
ถ้า หน้าเว็บไซต์ของคุณ มีขนาดใหญ่จนเกินไป จะทำให้ Search Engine ไม่สามารถเก็บข้อมูลของหน้าเว็บไซต์คุณได้ ดังนั้นในการออกแบบ ควรไม่ให้มีขนาดไฟล์ HTML ไม่เกิน 32K
แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ
การ แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ และมีเว็บไซต์อื่นๆ ลิงค์มาหาคุณเยอะๆ เป็นการแสดงว่า เว็บไซต์คุณเป็นที่รู้จักจาก ซึ่ง Google จะให้คะแนนของเว็บไซต์คุณ โดยเป็นค่า Page Rank (PR)โดยจะมีการให้คะแนนเอาไว้มีค่าตั้งแต่ 1-10 คะแนน โดยเว็ปเพจใดที่ google เห็นว่าเป็นเว็ปเพจที่ “ สำคัญ ” ซึ่งหากเว็บไซต์คุณมีค่า Page Rank สูงก็จะมีผลต่ออันดับในการแสดงใน google โดยเราสามารถทราบค่า PR ของเว็บไซต์เราได้ โดย download และ install google toolbar (http://toolbar.google.com) หลังจากนั้นคุณจะสามารถดูคะแนน PR ของคุณที่จัดโดย google ได้
ทำ Site Map ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
Site Map ก็คือแผนที่เว็ปไซด์ของคุณ ว่าเว็ปไซด์คุณมีหน้าเว็ปต่างๆ อยู่ที่ไหนบ้าง หน้าไหน link ไปสู่หน้าไหน เป็นการรองรับให้ทุกๆ หน้าของเว็ปไซด์คุณถูกเข้าถึงได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ Google สามารถทราบได้ว่าในเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเว็บอะไรบ้างทั้งหมด
ครับเทคนิคเบื้องต้นที่แนะนำมาเป็นเทคนิคที่เราสามารถทำได้และเข้าใจง่าย ๆ ทั้งนี้ไม่ว่าเว็บไซด์หรือเว็บบล็อกก็จะใช้หลัการเดียวกัน ดังนั้นถ้าจะให้เว็บไวด์คุณมียอดคลิกเยอะก็ต้องทำความเข้าใจกับเทคนิคนี้เยอะ ๆ ครับ