ผมเองเป็นบ่อย ๆ ที่ลืมนู้นลืมนี่ อิอิ แต่อยากบอกเล่ากับคุณผู้อ่านว่าเมื่อเราจะไปถ่ายรูปที่ไหน เราจะต้องไม่ลืมที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้เสมอ ซึ่งหลาย ๆ คนมักไม่ค่อยจะทำ และคุณมักคิดว่ามันไม่จำเป็น แต่ที่จริงมันสำคัญมากครับ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณไม่สามารถถ่ายรูปได้ดี แบบคนอื่นสักที ดังนั้นเรามาลองดูกันครับ
อ่านคู่มือกล้องให้เข้าใจโดยละเอียด
สิ่งที่หลายคนมักไม่ทำเมื่อได้กล้องมาก็ไม่ยอมอ่าน แต่ผมก็ยอมรับนะครับ ก็การต้องมาอ่านคู่มือหนา ๆ มันไม่ง่ายเท่าไหร่ครับ กับการที่เราต้องมานั่งอ่านคู่มือกล้องที่หนา แต่ผมอยากบอกกับคุณผู้อ่านว่า คู่มือกล้องก็คือ ตำราเล่มแรกที่ดีที่สุดที่คุณจะศึกษาการถ่ายภาพได้ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถใช้กล้องได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น การไม่อ่านคู่มือก็จะมีผลให้หลายคน ซื้อกล้องราคาหลายหมื่น มา แต่ใช้เท่ากับราคา พันกว่าบาท เพราะไม่รู้ถึงประสิทธิภาพนั่นเองครับ
ภาพดี ไม่ได้อยู่กับอุปกรณ์ราคาแสนกว่า เสมอไป
จริงๆ แล้วจุดนี้ก็ต้องบอกว่า มันเป็นค่านิยมของแต่ละคนบวกเข้าไปด้วย อุปกรณ์ถ่ายภาพที่ดีแน่นอนว่ามันช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่การใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพของเรานั้นผมอยากให้เน้นไปที่การเลือกหาอุปกรณ์ให้ตรงกับแนวภาพของเรามากกว่า เพราะนั่นจะตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากกว่า บางท่านซื้อเลนส์มานอนจอดไว้ในตู้กันชื้นเฉยๆ ก็มี หรือเก็บไว้ราขึ้นก็มีเช่นกัน ฉะนั้นอยากให้คำนึงถึงเรื่องของการใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพตามที่เราจำเป็น
จะให้แน่ใจ เปิดดูในคอมก่อน
หลายท่านถ่ายภาพมาก็พรีวิวดูมันที่หลังจอ LCD ของกล้อง และก็พบว่าภาพส่วนมากมักจะสวยคม เพราะจอ LCD ของกล้องนั้นมีขนาดเล็ก และสีสัน รวมถึงคอนทราสต์ของจอค่อนข้างดี ฉะนั้นมันจึงหลอกตาคุณว่า ภาพที่ถ่ายมานั้นก็คมชัดดี แต่เมื่อเราเปิดดูในคอมจะรู้ว่า ภาพมี Noise มีความเบลอ ๕๕๕๕ แต่ แต่ไม่มีก็แสดงว่าภาพนั้นดีแล้ว ดังนั้น จะให้แน่ใจว่าภาพนั้นโอเค ก็ให้ดู จาก คอมพิวเตอร์ครับ
ลบภาพจากในคอมพิวเตอร์
กล้องบางตัวมีฟังค์ชั่นแต่งภาพให้ได้ใช้กันบนตัวกล้อง และจะสังเกตว่ากล้องส่วนมากมีฟังชั่นที่สามารถลบภาพออกจากเมมโมรี่การ์ดได้ แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือว่า อย่ามานั่งลบภาพจากกล้องเองเด็ดขาด หลายคนอาจงงว่าทำไม เหตุผลง่าย ๆ ครับ ในข้อที่แล้วผมบอกไปแล้วว่า การ มองภาพ ผ่านหน้าจอ LCD ของกล้องมันไม่ได้ทำให้เราเห็นรายละเอียดทั้งหมด ดังนั้นหากคุณลบภาพในกล้อง คุณอาจเผลอลบภาพดีดีไปก็ได้ ดังนั้นคุณควรมาเลือกภาพในคอมพวเตอร์ดูให้แน่ใจแล้วค่อยลบออกไปครับ
เปลี่ยนโหมดถ่ายบ้าง
หากกล้องของคุณมีโหมดที่ปรับช่องรับแสงหรือปรับสปีดชัตเตอร์ได้ จงเรียนรู้การใช้งานในโหมดแมนวลบ้าง หรือมีโหมดถ่ายเฉพาะ สถานการณ์ ที่มีมากมาย ก็ให้ลองปรับ ดูบ้าง เพราะการปรับพวกนี้จะช่วยให้คุณสามารถ ถ่ายภาพให้สวยงาม ด้วยเช่นกัน ดังนั้นช่วงแรกอาจมีปัญหากับการถ่ายภาพกันบ้าง แต่สักพักเราจะ รู้และปรับได้เหมาะสมเองครับ
เลือกซื้อกล้องให้ตรงกับการใช้งานและประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณ
ถ้าคุณไม่ได้คิดจะถ่ายรูปแบบจริงจังอะไรมากมาย กล้อง D’compact ตัวเล็ก ๆ อาจเหมาะกับคุณมากที่สุด งอะไรมากมาย กล้องาม ด้วยเช่นกัน ดังนั้นช่วงแรกอาจมีปัญหากับการถ่ายภาพกันบ้าง แต่สักพักเราจะ รู แต่หากคุณบอกว่าต้องการเรียนถ่ายภาพไปด้วยในอนาคตและต้องการภาพที่มีคุณภาพสูง กล้องในแบบไมโคร 4/3 เป็นทางออกที่ดีมากๆ
แบ็กอัพภาพไว้เสมอก่อนลบภาพจากเมมโมรี่
บางท่านถ่ายภาพมาแล้ว มักทิ้งภาพไว้ในเมมโมรี่หรือ SD Card ผมอยากแนะนำให้คุณแบ็กอัพภาพของคุณในหลายๆ วิธี ไม่ว่าจะเป็นการโอนถ่ายไฟล์ภาพลงคอมพิวเตอร์เก็บไว้บน ฮาร์ดดิสก์ หรือแบ็กอัพโดยการไร้ต์ใส่แผ่น DVD เก็บไว้ก่อนก็ยิ่งดี ก่อนที่คุณจะลบภาพบนเมมโมรี่
มีการ์ดไว้ให้พอกับการถ่าย
ตรงนี้ผมย้ำมาหลายรอบแล้วครับ และ ยิ่งในปัจจุบัน การ์ดแบบ SDHC ราคาถูกมาก ดังนั้น เรา ควรที่จะหา การ์ดสำรอง ไว้เผื่อฉุกเฉิน เสมอครับ ความจุขั้นต่ำไม่ควรน้อยกว่า 2 GB และควรมีสำรองเสมอครับ ยิ่งกล้องละเอียดสูงก็ควรที่จะมีการ์ด ที่มาก เหมาะสมกับตัวกล้อง ไอ้การ์ด 128 หรือ 512 อย่างสมัยก่อนน่ะ เกษียรมันเข้ากรุได้แล้วครับ ห่าใหม่ เอาที่มันเหมาะสม ให้ได้เต็มประสิทธิภาพของกล้อง ผมเห็นมาบ่อยกับการที่ต้องทนถ่ายภาพที่ความละเอียดแค่ 3 ล้านพิกเซล ทั้งๆ ที่กล้องทำความละเอียดได้ถึงสิบกว่าล้านพิกเซล อันเนื่องมาจากว่ากลัวการ์ดเต็ม ฉะนั้นจงซื้อหน่วยความจำให้พอเพียงที่สุดกับการใช้งาน เพื่อคุณจะได้ถ่ายภาพที่เต็มความละเอียดของกล้อง
มีแบตเตอรี่สำรอง
ตรงนี้สำคัญนะครับ กล้อง ดิจิตอลนะครับ ไม่ใช่กล้องทอย กล้องทอย ไม่มี แบตเตอรี่ก็ยังไปเดินถ่ายได้ แต่กล้องทอย แบตเตอรี่หมด ก็กลายเป็นที่ทับกระดาษดีดีนี่เองครับ ดังนั้น หากกล้องของคุณใช้แบตเตอรี่แบบ AA คุณควรหาแบตเตอรี่สำรองไว้อีกสักชุด หรือจะหาแบตเตอรี่ AA แบบ อัลคาไลน์ติดกระเป๋าไว้ยามฉุกเฉินก็ได้ แต่หากกล้องคุณใช้ลิเธียมก็ให้หาสำรองไว้อีกสักก้อนครับ แล้วคุณจะสบายใจในการถ่ายภาพมาก เทคนิคการประหยัดพลังงานอีกอย่างหนึ่งที่คุณทำได้คือ และยิ่งเวลาโอนภาพลงคอมไม่ควรโอนจากตัวกล้องโดยตรงครับ หาการ์ดรีดเดอร์สักตัวมาพกไว้ ถ้าจะโอนไฟล์ให้ใส่การ์ดรีดเดอร์เอาครับ
เช็คฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต้องใช้
ก่อนที่จะซื้อกล้อง อยากให้ลองดูอุปกรณ์ที่จะเอามาโปรเซสภาพ นั่นคือ คอมพิวเตอร์ของเรา ว่ามันสามารถโปรเซสไฟล์ภาพขนาดใหญ่ได้หรือไม่ โดยเฉพาะหากคุณมีกล้องที่สามารถถ่ายวิดีโอคลิปได้ที่ความละเอียดในระดับ Hi Def สิ่งจำเป็นในการรันไฟล์พวกนี้ก็คือคอมพิวเตอร์ที่มีระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ หรือแม้แต่การตกแต่งภาพบนคอมพิวเตอร์ด้วย ฉะนั้นลองดูสเป็กคอมฯ ของตัวเองด้วย
และสิ่งที่กล่าวมา ทั้งหมดผมก็อยากบอกว่า เราไม่ควรมองข้ามไปเด็ดขาด ควรจะศึกษา และก็ทำความเข้าใจ และปฏิบัติเสมอ ไม่งั้น ได้ภาพขี้เหร่ไม่รู้ด้วยนะครับ
สิ่งที่หลายคนมักไม่ทำเมื่อได้กล้องมาก็ไม่ยอมอ่าน แต่ผมก็ยอมรับนะครับ ก็การต้องมาอ่านคู่มือหนา ๆ มันไม่ง่ายเท่าไหร่ครับ กับการที่เราต้องมานั่งอ่านคู่มือกล้องที่หนา แต่ผมอยากบอกกับคุณผู้อ่านว่า คู่มือกล้องก็คือ ตำราเล่มแรกที่ดีที่สุดที่คุณจะศึกษาการถ่ายภาพได้ เพราะมันจะช่วยให้คุณสามารถใช้กล้องได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น การไม่อ่านคู่มือก็จะมีผลให้หลายคน ซื้อกล้องราคาหลายหมื่น มา แต่ใช้เท่ากับราคา พันกว่าบาท เพราะไม่รู้ถึงประสิทธิภาพนั่นเองครับ
ภาพดี ไม่ได้อยู่กับอุปกรณ์ราคาแสนกว่า เสมอไป
จริงๆ แล้วจุดนี้ก็ต้องบอกว่า มันเป็นค่านิยมของแต่ละคนบวกเข้าไปด้วย อุปกรณ์ถ่ายภาพที่ดีแน่นอนว่ามันช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แต่การใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพของเรานั้นผมอยากให้เน้นไปที่การเลือกหาอุปกรณ์ให้ตรงกับแนวภาพของเรามากกว่า เพราะนั่นจะตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากกว่า บางท่านซื้อเลนส์มานอนจอดไว้ในตู้กันชื้นเฉยๆ ก็มี หรือเก็บไว้ราขึ้นก็มีเช่นกัน ฉะนั้นอยากให้คำนึงถึงเรื่องของการใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพตามที่เราจำเป็น
จะให้แน่ใจ เปิดดูในคอมก่อน
หลายท่านถ่ายภาพมาก็พรีวิวดูมันที่หลังจอ LCD ของกล้อง และก็พบว่าภาพส่วนมากมักจะสวยคม เพราะจอ LCD ของกล้องนั้นมีขนาดเล็ก และสีสัน รวมถึงคอนทราสต์ของจอค่อนข้างดี ฉะนั้นมันจึงหลอกตาคุณว่า ภาพที่ถ่ายมานั้นก็คมชัดดี แต่เมื่อเราเปิดดูในคอมจะรู้ว่า ภาพมี Noise มีความเบลอ ๕๕๕๕ แต่ แต่ไม่มีก็แสดงว่าภาพนั้นดีแล้ว ดังนั้น จะให้แน่ใจว่าภาพนั้นโอเค ก็ให้ดู จาก คอมพิวเตอร์ครับ
ลบภาพจากในคอมพิวเตอร์
กล้องบางตัวมีฟังค์ชั่นแต่งภาพให้ได้ใช้กันบนตัวกล้อง และจะสังเกตว่ากล้องส่วนมากมีฟังชั่นที่สามารถลบภาพออกจากเมมโมรี่การ์ดได้ แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือว่า อย่ามานั่งลบภาพจากกล้องเองเด็ดขาด หลายคนอาจงงว่าทำไม เหตุผลง่าย ๆ ครับ ในข้อที่แล้วผมบอกไปแล้วว่า การ มองภาพ ผ่านหน้าจอ LCD ของกล้องมันไม่ได้ทำให้เราเห็นรายละเอียดทั้งหมด ดังนั้นหากคุณลบภาพในกล้อง คุณอาจเผลอลบภาพดีดีไปก็ได้ ดังนั้นคุณควรมาเลือกภาพในคอมพวเตอร์ดูให้แน่ใจแล้วค่อยลบออกไปครับ
เปลี่ยนโหมดถ่ายบ้าง
หากกล้องของคุณมีโหมดที่ปรับช่องรับแสงหรือปรับสปีดชัตเตอร์ได้ จงเรียนรู้การใช้งานในโหมดแมนวลบ้าง หรือมีโหมดถ่ายเฉพาะ สถานการณ์ ที่มีมากมาย ก็ให้ลองปรับ ดูบ้าง เพราะการปรับพวกนี้จะช่วยให้คุณสามารถ ถ่ายภาพให้สวยงาม ด้วยเช่นกัน ดังนั้นช่วงแรกอาจมีปัญหากับการถ่ายภาพกันบ้าง แต่สักพักเราจะ รู้และปรับได้เหมาะสมเองครับ
เลือกซื้อกล้องให้ตรงกับการใช้งานและประสบการณ์การถ่ายภาพของคุณ
ถ้าคุณไม่ได้คิดจะถ่ายรูปแบบจริงจังอะไรมากมาย กล้อง D’compact ตัวเล็ก ๆ อาจเหมาะกับคุณมากที่สุด งอะไรมากมาย กล้องาม ด้วยเช่นกัน ดังนั้นช่วงแรกอาจมีปัญหากับการถ่ายภาพกันบ้าง แต่สักพักเราจะ รู แต่หากคุณบอกว่าต้องการเรียนถ่ายภาพไปด้วยในอนาคตและต้องการภาพที่มีคุณภาพสูง กล้องในแบบไมโคร 4/3 เป็นทางออกที่ดีมากๆ
แบ็กอัพภาพไว้เสมอก่อนลบภาพจากเมมโมรี่
บางท่านถ่ายภาพมาแล้ว มักทิ้งภาพไว้ในเมมโมรี่หรือ SD Card ผมอยากแนะนำให้คุณแบ็กอัพภาพของคุณในหลายๆ วิธี ไม่ว่าจะเป็นการโอนถ่ายไฟล์ภาพลงคอมพิวเตอร์เก็บไว้บน ฮาร์ดดิสก์ หรือแบ็กอัพโดยการไร้ต์ใส่แผ่น DVD เก็บไว้ก่อนก็ยิ่งดี ก่อนที่คุณจะลบภาพบนเมมโมรี่
มีการ์ดไว้ให้พอกับการถ่าย
ตรงนี้ผมย้ำมาหลายรอบแล้วครับ และ ยิ่งในปัจจุบัน การ์ดแบบ SDHC ราคาถูกมาก ดังนั้น เรา ควรที่จะหา การ์ดสำรอง ไว้เผื่อฉุกเฉิน เสมอครับ ความจุขั้นต่ำไม่ควรน้อยกว่า 2 GB และควรมีสำรองเสมอครับ ยิ่งกล้องละเอียดสูงก็ควรที่จะมีการ์ด ที่มาก เหมาะสมกับตัวกล้อง ไอ้การ์ด 128 หรือ 512 อย่างสมัยก่อนน่ะ เกษียรมันเข้ากรุได้แล้วครับ ห่าใหม่ เอาที่มันเหมาะสม ให้ได้เต็มประสิทธิภาพของกล้อง ผมเห็นมาบ่อยกับการที่ต้องทนถ่ายภาพที่ความละเอียดแค่ 3 ล้านพิกเซล ทั้งๆ ที่กล้องทำความละเอียดได้ถึงสิบกว่าล้านพิกเซล อันเนื่องมาจากว่ากลัวการ์ดเต็ม ฉะนั้นจงซื้อหน่วยความจำให้พอเพียงที่สุดกับการใช้งาน เพื่อคุณจะได้ถ่ายภาพที่เต็มความละเอียดของกล้อง
มีแบตเตอรี่สำรอง
ตรงนี้สำคัญนะครับ กล้อง ดิจิตอลนะครับ ไม่ใช่กล้องทอย กล้องทอย ไม่มี แบตเตอรี่ก็ยังไปเดินถ่ายได้ แต่กล้องทอย แบตเตอรี่หมด ก็กลายเป็นที่ทับกระดาษดีดีนี่เองครับ ดังนั้น หากกล้องของคุณใช้แบตเตอรี่แบบ AA คุณควรหาแบตเตอรี่สำรองไว้อีกสักชุด หรือจะหาแบตเตอรี่ AA แบบ อัลคาไลน์ติดกระเป๋าไว้ยามฉุกเฉินก็ได้ แต่หากกล้องคุณใช้ลิเธียมก็ให้หาสำรองไว้อีกสักก้อนครับ แล้วคุณจะสบายใจในการถ่ายภาพมาก เทคนิคการประหยัดพลังงานอีกอย่างหนึ่งที่คุณทำได้คือ และยิ่งเวลาโอนภาพลงคอมไม่ควรโอนจากตัวกล้องโดยตรงครับ หาการ์ดรีดเดอร์สักตัวมาพกไว้ ถ้าจะโอนไฟล์ให้ใส่การ์ดรีดเดอร์เอาครับ
เช็คฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต้องใช้
ก่อนที่จะซื้อกล้อง อยากให้ลองดูอุปกรณ์ที่จะเอามาโปรเซสภาพ นั่นคือ คอมพิวเตอร์ของเรา ว่ามันสามารถโปรเซสไฟล์ภาพขนาดใหญ่ได้หรือไม่ โดยเฉพาะหากคุณมีกล้องที่สามารถถ่ายวิดีโอคลิปได้ที่ความละเอียดในระดับ Hi Def สิ่งจำเป็นในการรันไฟล์พวกนี้ก็คือคอมพิวเตอร์ที่มีระบบประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ หรือแม้แต่การตกแต่งภาพบนคอมพิวเตอร์ด้วย ฉะนั้นลองดูสเป็กคอมฯ ของตัวเองด้วย
และสิ่งที่กล่าวมา ทั้งหมดผมก็อยากบอกว่า เราไม่ควรมองข้ามไปเด็ดขาด ควรจะศึกษา และก็ทำความเข้าใจ และปฏิบัติเสมอ ไม่งั้น ได้ภาพขี้เหร่ไม่รู้ด้วยนะครับ