หลายคนเวลาถ่ายรูปด้วยกล้องคอมแพ็ฏมักจะเห็นว่ามันไม่ได้ชัดเหมือนกับกล้อง DSLR ตัวใหญ่ ๆ จนทำให้หลายคนไปยึดติดเรื่องคุณภาพของภาพถ่าย กับตัวกล้องเลยทีเดียว แต่ผมอยากบอกว่า การเข้าใจแบบนั้นเป็นสิ่งที่ผิดครับ นั่นก็เพราะว่ากล้องคอมแพ็คแม้จะมีข้อจำกัดเรื่องของการปรับแต่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพของภาพถ่ายลดลงครับ แต่สาเหตุจริงที่ทำให้ คุณภาพของการถ่ายภาพลดลง ไม่ชัดก็เพราะ การถ่ายในลักษณะที่ผิด ๆ ต่างหาก ดังนั้นเราลองมาดูเทคนิคต่อไปนี้ครับ
การถือกล้อง
หลายคนอาจจะงงว่าการถือกล้องมันเกี่ยวอะไร กล้องตัวเล็กนิดเดียว ถืออย่างไงก็ได้ แต่ความคิดแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิดทั้งสิ้นครับ การถือกล้อง ควรถือกล้องด้วยสองมือและไม่ต้องยื่นแขนไปด้านหน้ามากนัก ควรงอแขนให้แนบลำตัวเพื่อไม่ให้แขนคุณแกว่งไปมานขณะที่ถ่ายภาพนั่นเอง ฉะนั้นอย่าถือกล้องให้ห่างจากตัวมากนัก ซึ่งการถือกล้องแบบนี้จะทำให้คุณได้ภาพที่ชัดเจนไม่เบลอ นั่นก็เพราะมันทำให้มือของคุณนิ่งและมั่นคงนั่นเองครับ
การโฟกัสกล้อง
โฟกัสให้เข้าเป้าก่อน โดยปกติ ที่เคบใช้กล้องส่วนมาก นะครับ คือ เราต้องกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่งเพื่อให้กล้องทำการโฟกัสและปรับระยะภาพที่ถูกต้อง และค่อยกดลงไปอีกครึ่งเพื่อทำการถ่ายภาพ สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืมครับ แม้ว่ากล้องจะทำงานด้วยระบบออโต้ แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการปรับออโต้เช่นกันดังนั้นจึงต้องโฟกัสก่อนถ่ายทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นก็คือกดชัตเตอร์เต็มที่ไปเลย นั่นก็เป็นสาเหตุให้ภาพไม่ชัดแน่นอน เพราะเลนส์กล้องยังไม่เข้าโฟกัส วิธีการสังเกตเพื่อความแน่ใจนะครับ สิ่งแรก เราอาจดูที่ภาพทางหน้าจอว่าชัดหรือไม่ และบางรุ่นอาจมีกรอบสีเขียวตรงพื้นที่โฟกัส และหลายรุ่นยังมีเสียง ติ๊ด ๆ เป็นสัญญาณเตือนมาอีก ดังนั้น เราจึงควรดูให้แน่ใจก่อนกดถ่ายว่ากล้องโฟกัสถูกต้องตามที่เราต้องการแล้วหรือไม่
กดชัตเตอร์เบา ๆ
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่ามันไปเกี่ยวอะไรกับภาพ ในเมื่อการกดชัตเตอร์ เบาหรือแรงไม่ได้มีผลกับระบบของกล้องเลย แต่ผมบอกเลยนะครับ การกดชัตเตอร์แรงเกินไปคือเหตุผลหนึ่งของภาพเบลอ ๆ ที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ นั่นก็เพราะว่าการกดชัตเตอร์แรงเกินไปสิ่งที่มันจะตามมาแน่นอนก็คือ กล้องจะสั่นไหว แม้จะแสงดีอย่างไร แต่เมื่อกล้องสั่นก็มีผลเสมอครับ ดังนั้นเวลาจะถ่ายภาพ กดชัตเตอร์เบาๆ ก็พอ
ดูแสงสักนิด
เราจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราถ่ายภาพในตอนที่แสงน้อยก็ทำให้ภาพเบลอได้บ่อยๆ สาเหตุเกิดจาก เมื่อกล้องได้รับแสงผ่านเข้ามาในเซนเซอร์น้อย ดังนั้น กล้องจำเป็นต้องปรับสปีดชัตเตอร์ให้นานขึ้น คือเปิดค้างม่านชัตเตอร์นานขึ้นนั่นเอง จึงทำให้สปีดชัตเตอร์นั้นช้า และหากคุณเคลื่อนไหวเพียงนิด ระหว่างที่ม่านชัตเตอร์เปิดเพื่อรับแสง ดังนั้นหากสภาพแสงไม่ค่อยอำนวยก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะถ่ายครับ แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ปรับค่า ISO หรือค่าความไวแสง ให้สูงๆ เข้าไว้ เพื่อเพิ่มความไวชัตเตอร์ให้มากที่สุดแต่ว่าสิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือ Noise หรือสัญญาณรบกวนมาก และค่อยนำภาพมาลงคอมพิวเตอร์ และลบ Noise ด้วย ซอร์ฟแวร์สำเร็จรูปต่าง ๆ เอาก็ได้ แต่ถ้าหากมันยังไม่ดีเท่าที่ควรให้ปรับช่องรับแสงให้เปิดกว้างที่สุด แต่นั่นก็จะมีผลในเรื่องระยะชัดลึก ชัดตื้น ฉะนั้นควรถ่ายภาพที่แบบอยู่ในระนาบเดียวกับเลนส์กล้อง
ระบบป้องกันการสั่นไหว
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มีในกล้องคอมแพ็คในปัจจุบันนับว่ามีประสิทธิภาพมาก ดังนั้น หากคุณต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือตัวคุณต้องเคลื่อนไหวไปด้วย เช่น อยู่บนรถ บนเรือ ก็ให้ใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวเพิ่มความแน่นอนในการถ่ายภาพไว้
ถือกล้องไว้ก่อน
เมื่อถ่ายภาพให้ค้างกล้องไว้ก่อน สำหรับข้อนี้หากคุณใช้กล้องที่มีการประมวลผลค่อนข้างช้า ก็จะช่วยคุณได้ครับ เมื่อคุณถ่ายภาพโดยการกดชัตเตอร์ลงไปทั้งหมดแล้ว อย่าเพิ่งเอากล้องลงทันที ให้คุณค้างท่านั้นไว้สักหนึ่งอึดใจเท่านั้น รวมถึงตัวแบบด้วยฉะนั้นหากคุณถ่ายภาพกลุ่มเพื่อนๆ ของคุณ ก็ต้องบอกให้พวกเขารอสักครู่ก่อน เพื่อให้กล้องได้เก็บภาพและทำงานของมันให้สมบูรณ์แล้วจึงนำกล้องลง แต่ผมเห็นเพื่อนหลายคนกดชัตเตอร์เสร็จมักเอาลงทันที นั่นอาจทำให้ภาพที่ได้ออกมาเบลอ และข้อสังเกตที่มองเห็นได้อีกอย่าง เราจะเห็นว่าทันทีที่เรากดชัตเตอร์ลงไปสุด หน้าจอจะมืดไป บางทีอาจเป็นแค่การกระพริบหากแสง พอ หรือ แค่ภาพ ที่หน้าจอ LCD หยุดนิ่ง แต่ในกรณีแสงน้อยกล้องจะมืดไปนาน หรือมีไปสัญญาณบอกว่ากำลังทำงานซึ่งตรงนั้นสามารถบอกเราได้ว่า โปรดค้างจนกว่า ภาพบนหน้าจอ LCD จะกลับเข้าสู่ภาพปกติ
ศึกษาเกี่ยวกันเลนส์
ควรเข้าใจความสามารถของเลนส์กล้อง เลนส์ในกล้องทุกตัวจะมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในระยะใกล้ไกลแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้างที่เราเรียกว่า เลนส์ไวด์(WIDE) และเลนส์ซูมที่เราเรียกกันว่าเลนส์เทเล(Tara) ซึ่งจะให้ระยะชัดที่ต่างกัน และนอกจากนี้ยังมีเลนส์มาโคร ที่ท้ำให้กล้องเข้าใกล้วัตถุได้มาก ๆ ซึ่งหลายรุ่นสามารถนำเลนส์มาจ่อวัตถุได้ในระยะ ไม่ถึง 1 เซนติเมตร ที่ แต่นั่นไม่ใช่กับเลนส์ทุกตัวที่ติดกล้องมา ฉะนั้นคุณจะเรียนรู้ก่อนว่าเลนส์กล้องของคุณจะสามารถโฟกัสภาพได้ชัดที่ระยะเท่าใดเป็นอย่างต่ำ เพราะถ้าคุณเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ กล้องจะไม่โฟกัสแต่ถ้าผู้ถ่ายภาพยังดื้อถ่ายภาพมา ก็จะทำให้ภาพเบลอได้เช่นกัน ฉะนั้นอ่านในคู่มือกล้องก่อนครับ
มีขาตั้งบ้างก็ดีนะครับ
ส่วนมากแล้วคนที่ใช้กล้องคอมแพ็คตัวเล็ก ๆ เวลาไปเที่ยวมักจะ ไม่ค่อยจะพกขาตั้งกล้องกัน (บางคนไม่ยอมซื้อมาด้วยซ้ำ อิอิ) โดยเหตุผลต่าง ๆ นานา เช่น ไม่มีขาก็ถ่ายได้ หรือ มันเกะกะ ขวาง หนัก และอีกสารพัด แต่ผมจะบอกว่ามันสำคัญมากกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพที่ต้องการความนิ่งของตัวกล้อง เช่นภาพกลางคืน หรือภาพพลุ และภาพน้ำตก หรือภาพแนวอื่นๆ แต่สำหรับผมเองบางทีไม่ได้เอาขาตั้งไป โต๊ะ หลังคารถ กิ่งไม้ ก้อนหิน หรือแม้กระทั่ง บนศีรษะชาวบ้าน(อันนี้อันตราย) ก็กลายเป็นที่ตั้งกล้องได้เช่นกันครับ อะไรก็ได้ขอให้นิ่งไว้ก่อน
เปิดรูรับแสงให้พอดี
กล้องก็นิ่ง แสงก็พอแต่ยังเบลอ อันนี้หลายคนอาจเคยเจอ และอาจทำให้หลายคน ถึงกับแทบคว้างกล้องทิ้ง แต่ที่จริงมันมีสาเหตุจากรูรับแสงเปิดไม่พอดีทำให้ระยะชัดของกล้องเปลี่ยนไปนั่นเองครับ เพราะเราจะสังเกตว่า บางครั้ง เวลาที่เราถ่ายภาพหมู่ ภาพอาจชัดแค่คนที่อยู่ข้างหน้าสุด หรือหลังสุด นั่นก็เพราะรูรับแสงทำให้ระยะชัดของกล้องเปลี่ยนไปนั่นเอง ดังนั้นรูรับแสงจะต้องถูกปรับให้พอดีกับระยะภาพที่จะถ่ายด้วยเช่นกันครับ (สำหรับเรื่องรูรับแสงผมเคยเขียนอธิบายมาแล้วในบทความเก่าลองไปอ่านดูนะครับ)
มือหนักนัก ไม่ต้องกดชัตเตอร์
การแก้ปัญหาเรื่องการกดชัตเตอร์แล้วทำให้ภาพสั่นไหวหลายคนอาจลดน้ำหนักมือลงได้ แต่หลาย คนมือหนักลดไม่ได้ แล้วไงดี ก็ไม่ยากครับ คุณก็ไม่ต้องกดชัตเตอร์เอง ก็ปรับตั้งโหมดตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติเอาครับ ตั้งไว้สัก 3 วินาที มันเหมาะมากสำหรับการถ่ายดอกไม้ หรือถ่ายภาพวิวกลางคืน ซึ่งเมื่อคุณเล็งโฟกัส กดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่งไว้ แล้วเมื่อถ่ายภาพให้คุณกดเต็มอีกที จากนั้นกล้องจะทำการนับถอยหลังเพื่อถ่ายภาพ จุดนี้เมื่อยหน่อย แต่ถ้าคุณถือกล้องได้นิ่งๆ ภาพที่ได้จะชัดเจนดั่งใจแน่นอนครับ
เห็นไหมครับ การจะถ่ายภาพให้โอเคมันไม่ได้ยากอะไร แค่เราต้องทำความเข้าใจกับเทคนิคต่าง ๆ ให้ดีเท่านั้นเองครับ
หลายคนอาจจะงงว่าการถือกล้องมันเกี่ยวอะไร กล้องตัวเล็กนิดเดียว ถืออย่างไงก็ได้ แต่ความคิดแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิดทั้งสิ้นครับ การถือกล้อง ควรถือกล้องด้วยสองมือและไม่ต้องยื่นแขนไปด้านหน้ามากนัก ควรงอแขนให้แนบลำตัวเพื่อไม่ให้แขนคุณแกว่งไปมานขณะที่ถ่ายภาพนั่นเอง ฉะนั้นอย่าถือกล้องให้ห่างจากตัวมากนัก ซึ่งการถือกล้องแบบนี้จะทำให้คุณได้ภาพที่ชัดเจนไม่เบลอ นั่นก็เพราะมันทำให้มือของคุณนิ่งและมั่นคงนั่นเองครับ
การโฟกัสกล้อง
โฟกัสให้เข้าเป้าก่อน โดยปกติ ที่เคบใช้กล้องส่วนมาก นะครับ คือ เราต้องกดชัตเตอร์ลงไปครึ่งหนึ่งเพื่อให้กล้องทำการโฟกัสและปรับระยะภาพที่ถูกต้อง และค่อยกดลงไปอีกครึ่งเพื่อทำการถ่ายภาพ สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืมครับ แม้ว่ากล้องจะทำงานด้วยระบบออโต้ แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการปรับออโต้เช่นกันดังนั้นจึงต้องโฟกัสก่อนถ่ายทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นก็คือกดชัตเตอร์เต็มที่ไปเลย นั่นก็เป็นสาเหตุให้ภาพไม่ชัดแน่นอน เพราะเลนส์กล้องยังไม่เข้าโฟกัส วิธีการสังเกตเพื่อความแน่ใจนะครับ สิ่งแรก เราอาจดูที่ภาพทางหน้าจอว่าชัดหรือไม่ และบางรุ่นอาจมีกรอบสีเขียวตรงพื้นที่โฟกัส และหลายรุ่นยังมีเสียง ติ๊ด ๆ เป็นสัญญาณเตือนมาอีก ดังนั้น เราจึงควรดูให้แน่ใจก่อนกดถ่ายว่ากล้องโฟกัสถูกต้องตามที่เราต้องการแล้วหรือไม่
กดชัตเตอร์เบา ๆ
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่ามันไปเกี่ยวอะไรกับภาพ ในเมื่อการกดชัตเตอร์ เบาหรือแรงไม่ได้มีผลกับระบบของกล้องเลย แต่ผมบอกเลยนะครับ การกดชัตเตอร์แรงเกินไปคือเหตุผลหนึ่งของภาพเบลอ ๆ ที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ นั่นก็เพราะว่าการกดชัตเตอร์แรงเกินไปสิ่งที่มันจะตามมาแน่นอนก็คือ กล้องจะสั่นไหว แม้จะแสงดีอย่างไร แต่เมื่อกล้องสั่นก็มีผลเสมอครับ ดังนั้นเวลาจะถ่ายภาพ กดชัตเตอร์เบาๆ ก็พอ
ดูแสงสักนิด
เราจะสังเกตได้ว่า เมื่อเราถ่ายภาพในตอนที่แสงน้อยก็ทำให้ภาพเบลอได้บ่อยๆ สาเหตุเกิดจาก เมื่อกล้องได้รับแสงผ่านเข้ามาในเซนเซอร์น้อย ดังนั้น กล้องจำเป็นต้องปรับสปีดชัตเตอร์ให้นานขึ้น คือเปิดค้างม่านชัตเตอร์นานขึ้นนั่นเอง จึงทำให้สปีดชัตเตอร์นั้นช้า และหากคุณเคลื่อนไหวเพียงนิด ระหว่างที่ม่านชัตเตอร์เปิดเพื่อรับแสง ดังนั้นหากสภาพแสงไม่ค่อยอำนวยก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะถ่ายครับ แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ให้ปรับค่า ISO หรือค่าความไวแสง ให้สูงๆ เข้าไว้ เพื่อเพิ่มความไวชัตเตอร์ให้มากที่สุดแต่ว่าสิ่งที่อาจเกิดขึ้นก็คือ Noise หรือสัญญาณรบกวนมาก และค่อยนำภาพมาลงคอมพิวเตอร์ และลบ Noise ด้วย ซอร์ฟแวร์สำเร็จรูปต่าง ๆ เอาก็ได้ แต่ถ้าหากมันยังไม่ดีเท่าที่ควรให้ปรับช่องรับแสงให้เปิดกว้างที่สุด แต่นั่นก็จะมีผลในเรื่องระยะชัดลึก ชัดตื้น ฉะนั้นควรถ่ายภาพที่แบบอยู่ในระนาบเดียวกับเลนส์กล้อง
ระบบป้องกันการสั่นไหว
ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่มีในกล้องคอมแพ็คในปัจจุบันนับว่ามีประสิทธิภาพมาก ดังนั้น หากคุณต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือตัวคุณต้องเคลื่อนไหวไปด้วย เช่น อยู่บนรถ บนเรือ ก็ให้ใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวเพิ่มความแน่นอนในการถ่ายภาพไว้
ถือกล้องไว้ก่อน
เมื่อถ่ายภาพให้ค้างกล้องไว้ก่อน สำหรับข้อนี้หากคุณใช้กล้องที่มีการประมวลผลค่อนข้างช้า ก็จะช่วยคุณได้ครับ เมื่อคุณถ่ายภาพโดยการกดชัตเตอร์ลงไปทั้งหมดแล้ว อย่าเพิ่งเอากล้องลงทันที ให้คุณค้างท่านั้นไว้สักหนึ่งอึดใจเท่านั้น รวมถึงตัวแบบด้วยฉะนั้นหากคุณถ่ายภาพกลุ่มเพื่อนๆ ของคุณ ก็ต้องบอกให้พวกเขารอสักครู่ก่อน เพื่อให้กล้องได้เก็บภาพและทำงานของมันให้สมบูรณ์แล้วจึงนำกล้องลง แต่ผมเห็นเพื่อนหลายคนกดชัตเตอร์เสร็จมักเอาลงทันที นั่นอาจทำให้ภาพที่ได้ออกมาเบลอ และข้อสังเกตที่มองเห็นได้อีกอย่าง เราจะเห็นว่าทันทีที่เรากดชัตเตอร์ลงไปสุด หน้าจอจะมืดไป บางทีอาจเป็นแค่การกระพริบหากแสง พอ หรือ แค่ภาพ ที่หน้าจอ LCD หยุดนิ่ง แต่ในกรณีแสงน้อยกล้องจะมืดไปนาน หรือมีไปสัญญาณบอกว่ากำลังทำงานซึ่งตรงนั้นสามารถบอกเราได้ว่า โปรดค้างจนกว่า ภาพบนหน้าจอ LCD จะกลับเข้าสู่ภาพปกติ
ศึกษาเกี่ยวกันเลนส์
ควรเข้าใจความสามารถของเลนส์กล้อง เลนส์ในกล้องทุกตัวจะมีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในระยะใกล้ไกลแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้างที่เราเรียกว่า เลนส์ไวด์(WIDE) และเลนส์ซูมที่เราเรียกกันว่าเลนส์เทเล(Tara) ซึ่งจะให้ระยะชัดที่ต่างกัน และนอกจากนี้ยังมีเลนส์มาโคร ที่ท้ำให้กล้องเข้าใกล้วัตถุได้มาก ๆ ซึ่งหลายรุ่นสามารถนำเลนส์มาจ่อวัตถุได้ในระยะ ไม่ถึง 1 เซนติเมตร ที่ แต่นั่นไม่ใช่กับเลนส์ทุกตัวที่ติดกล้องมา ฉะนั้นคุณจะเรียนรู้ก่อนว่าเลนส์กล้องของคุณจะสามารถโฟกัสภาพได้ชัดที่ระยะเท่าใดเป็นอย่างต่ำ เพราะถ้าคุณเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ กล้องจะไม่โฟกัสแต่ถ้าผู้ถ่ายภาพยังดื้อถ่ายภาพมา ก็จะทำให้ภาพเบลอได้เช่นกัน ฉะนั้นอ่านในคู่มือกล้องก่อนครับ
มีขาตั้งบ้างก็ดีนะครับ
ส่วนมากแล้วคนที่ใช้กล้องคอมแพ็คตัวเล็ก ๆ เวลาไปเที่ยวมักจะ ไม่ค่อยจะพกขาตั้งกล้องกัน (บางคนไม่ยอมซื้อมาด้วยซ้ำ อิอิ) โดยเหตุผลต่าง ๆ นานา เช่น ไม่มีขาก็ถ่ายได้ หรือ มันเกะกะ ขวาง หนัก และอีกสารพัด แต่ผมจะบอกว่ามันสำคัญมากกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะภาพที่ต้องการความนิ่งของตัวกล้อง เช่นภาพกลางคืน หรือภาพพลุ และภาพน้ำตก หรือภาพแนวอื่นๆ แต่สำหรับผมเองบางทีไม่ได้เอาขาตั้งไป โต๊ะ หลังคารถ กิ่งไม้ ก้อนหิน หรือแม้กระทั่ง บนศีรษะชาวบ้าน(อันนี้อันตราย) ก็กลายเป็นที่ตั้งกล้องได้เช่นกันครับ อะไรก็ได้ขอให้นิ่งไว้ก่อน
เปิดรูรับแสงให้พอดี
กล้องก็นิ่ง แสงก็พอแต่ยังเบลอ อันนี้หลายคนอาจเคยเจอ และอาจทำให้หลายคน ถึงกับแทบคว้างกล้องทิ้ง แต่ที่จริงมันมีสาเหตุจากรูรับแสงเปิดไม่พอดีทำให้ระยะชัดของกล้องเปลี่ยนไปนั่นเองครับ เพราะเราจะสังเกตว่า บางครั้ง เวลาที่เราถ่ายภาพหมู่ ภาพอาจชัดแค่คนที่อยู่ข้างหน้าสุด หรือหลังสุด นั่นก็เพราะรูรับแสงทำให้ระยะชัดของกล้องเปลี่ยนไปนั่นเอง ดังนั้นรูรับแสงจะต้องถูกปรับให้พอดีกับระยะภาพที่จะถ่ายด้วยเช่นกันครับ (สำหรับเรื่องรูรับแสงผมเคยเขียนอธิบายมาแล้วในบทความเก่าลองไปอ่านดูนะครับ)
มือหนักนัก ไม่ต้องกดชัตเตอร์
การแก้ปัญหาเรื่องการกดชัตเตอร์แล้วทำให้ภาพสั่นไหวหลายคนอาจลดน้ำหนักมือลงได้ แต่หลาย คนมือหนักลดไม่ได้ แล้วไงดี ก็ไม่ยากครับ คุณก็ไม่ต้องกดชัตเตอร์เอง ก็ปรับตั้งโหมดตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติเอาครับ ตั้งไว้สัก 3 วินาที มันเหมาะมากสำหรับการถ่ายดอกไม้ หรือถ่ายภาพวิวกลางคืน ซึ่งเมื่อคุณเล็งโฟกัส กดชัตเตอร์ครึ่งหนึ่งไว้ แล้วเมื่อถ่ายภาพให้คุณกดเต็มอีกที จากนั้นกล้องจะทำการนับถอยหลังเพื่อถ่ายภาพ จุดนี้เมื่อยหน่อย แต่ถ้าคุณถือกล้องได้นิ่งๆ ภาพที่ได้จะชัดเจนดั่งใจแน่นอนครับ
เห็นไหมครับ การจะถ่ายภาพให้โอเคมันไม่ได้ยากอะไร แค่เราต้องทำความเข้าใจกับเทคนิคต่าง ๆ ให้ดีเท่านั้นเองครับ