เมื่อวานก่อนคุยโทรศัพท์กับน้องคนหนึ่ง น้องเขาบอกว่า เวลาถ่ายภาพคนอื่น มักจะสวยมาก แต่พอ คนอื่นถ่ายภาพให้ ดูไม่สวยเลย ผมก็ซึ่งประสบการณ์นี้ผมเองก็โดนกับตัวอยู่บ่อย ๆ ก็เลย มาเขียนบทความนี้เพื่อที่จะนำเสนอการถ่ายภาพบุคคลให้เราได้อ่านกัน เผื่อว่าจะได้ภาพที่สวยขึ้น บ้าง แต่ก่อนอื่นนะครับ ผมบอกตามตรงว่าเจ้ากล้องคอมแพ็คตัวเล็ก ๆ มันมีข้อจำกัดเยอะมาก เราก็เลยต้องมีเรียนรู้กฎเกณฑ์ นี้กันก่อนเพื่อไม่ให้พลาดนะครับ
ถ่ายไปโลด
กล้องคอมแพ็คขนาดเล็กนั้นสามารถพกติดตัวคุณได้ตลอดเวลา และก็ไปกับคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด คุณก็สามารถพกกล้องคอมแพ็คตัวเก่งไปถ่ายภาพได้ตลอดเวลา แต่ตรงนี้ขอบอกก่อนว่าคุณจะต้องมี เมมโมรี่การ์ดเก็บข้อมูลเยอะสักนิด ทางที่ดีควรมีสำรองครับ และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ แบตเตอรี่ ควรมีสำรองเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็น DSLR หรือ COMPACT ตัวเล็ก ๆ ก็ไม่ต่างกันนั่นคือ ถ่ายรูปมา 30-40 ได้ภาพที่สวยจริงไม่ถึง 10 ภาพ ดังนั้นคุณจะต้องถ่ายเยอะมาก ถ่ายหลาย ๆ มุม และค่อยมาเลือกเอาทีหลัง เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ
ซูมเท้าก็เป็นควมคิดที่ดี
กล้องคอมแพ็คตัวเล็กส่วนใหญ่ที่มีการซูมนั้น เรามักจะเห็นว่าการซูมภาพอาจทำได้ช้า อีกทั้งกล้องหลาย ๆ รุ่น ซูมด้วยระบบดิจิตอล มีผลทำให้ ภาพเก็บรายละเอียดได้น้อยลง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวเราจึงต้องใช้วิธี คลาสสิก คือใช้วิธีการเดินเข้าไปหาวัตถุมากกว่าการใช้ฟังค์ชั่นซูม ให้คุณสังเกตภาพจาก LCD บนจอให้ได้ระยะชัดที่สุดและเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด หรือถ้าอยากได้ภาพที่ละเอียดและใกล้ๆ มาก ๆ ก็ใช้มาโคร เอากล้องไปจ่อถ่ายเลยครับ
สายตาสื่อสัมพันธ์
เขาว่ากันว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ประโยคนี้ใช้ได้จริงกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะความต้องการให้ภาพของคุณมีแรงดึงดูดมากขึ้น โดยเฉพาะภาพที่ได้จากกล้องคอมแพ็คตัวเล็กๆ นั้นอาจไม่สามารถปรับค่าไม่ได้เหมือนกับ DSLR ฉะนั้นจึงจำเป็นมากที่คุณต้องการแรงดึงดูดนี้ การถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ หรือ สัตว์ เช่น สัตว์เลี้ยง สุนัข แมว การเก็บภาพของดวงตาที่มองมายังกล้องของคุณจะช่วยให้ภาพเกิดอารมณ์ เกิดแรงดึงดูดให้ผู้ดูภาพสนใจ เช่น สายตาตอนยิ้ม ตอนเศร้า ตอนกำลังดีใจ
ดูแสงก่อนจะลงมือถ่าย
ขอนี้สำคัญมากครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้องระดับโปรฯ หรือเป็นกล้องคอมแพ็ค แสงคือสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อภาพ เพราะแสงทำให้เกิดสี และภาพที่สายตาเราเพราะในบางเวลาคุณจะพบว่าแฟลช มันไม่ช่วยอะไรได้มากนัก ฉะนั้นคุณต้องหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ลองหามุมที่ มีแสงตกกระทบวัตถุโดยปกติวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ การให้ต้นกำเนิดแสงอยู่ด้านหลังของคนถ่าย ซึ่งจะทำให้กล้องได้รับแสงมากที่สุดครับ
สนใจพื้นหลังสักหน่อย
ด้วยข้อจำกัดในการเก็บรายละเอียดของกล้องคอมแพ็คตัวบางๆ ในรุ่นล่างๆ ผมอยากแนะว่าให้คุณหลีกเลี่ยงการใช้แบล็คกราวน์หรือฉากหลังของภาพเป็นสิ่งที่มีรายละเอียดมากๆ ควรให้ฉากหลังเป็นโทนสีพื้น หรือ มีลักษณะที่แตกต่างกับบุคคลอย่างชัดเจน และไม่เด่นชัดมากนัก นั่นก็เพราะกล้องคอมแพ็คหลายรุ่นยากต่อการที่จะทำให้พื้นหลังของภาพนั้นเบลอลง ดังนั้น การถ่ายภาพ ที่พื้นหลังมีรายละเอียดเยอะเกินไป ก็จะมีผลทำให้ตัวคนไม่เด่นชัดได้เช่นกันครับ
หามุมก่อนถ่าย
ถ้าอยากให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาแล้วแปลกตา และดึงความสนใจจากผู้ที่ชมภาพได้ ก็ต้องถ่ายจากมุมแปลกๆ บ้าง ไม่ใช่กำหนดมุมกล้องในระดับสายตาอย่างเดียว เพราะมุมมองปกติเราก็เห็นกันอยู่ทุกวันก็มักจะถ่ายด้วยมุมกล้องแบบนี้ ดังนั้นเราลองหามุมมองแบบตามด คือ ถ่ายจากที่ต่ำให้ภาพอยู่สูง หรือ ถ่ายแบบมุมมองของตานก นั่นคือ ถ่ายจากมุมสูงให้ภาพอยู่ต่ำกว่าตัวกล้อง บางทีภาพพวกนี้จะทำให้ได้ภาพที่สวยมากกว่าภาพปกติได้เช่นกันครับ
ปรับความละเอียดของภาพให้สูงที่สุด
กล้องคอมแพ็คหลายต่อหลายรุ่นสามารถเลือกปรับการถ่ายภาพที่ความละเอียดต่างๆ กัน และหลายคนก็มักจะใช้กล้องความละเอียดต่ำ โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวเมมโมรี่เต็ม ความคิดแบบนี้ผิดมหันต์ครับ นั่นเพราะ เมื่อคุณเอาภาพลงคอมคุณจะพบว่าความละเอียดภาพมันหายไปมากทีเดียว ปกติผมจะถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูง ข้อดีที่ได้อีกอย่างคือ แม้ว่าคุณจะมา Capture ภาพเอาแค่บางส่วน คุณก็จะเห็นว่า ภาพก็ยังดูดีเหมือนเดิมนั่นเองครับ
ใช้กล้องให้ครบทุกฟังชั่น
หลายท่านซื้อกล้องมาแล้วไม่ค่อยได้ดูว่ามีฟังค์ชั่นในกล้องมีอะไรมาให้บ้าง ยกกล้องขึ้น และกดชัตเตอร์เป็นอันใช้ได้ แต่ผมอยากบอกว่า กล้องคอมแพ็คเกือบทุกรุ่นมีฟังค์ชั่นพิเศษที่จะช่วยเสริมให้ภาพที่ถ่ายนั้นดีขึ้น ซึ่งกล้องคอมแพ็คบางๆ ในรุ่นใหม่ๆ นั้นจะมีการปรับฟังค์ชั่นของเล่นต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณสามารถดูได้จากคู่มือของกล้อง หรือเข้าไปตามเว็บไซต์ ส่วนมากฟังค์ชั่นถ่ายภาพพิเศษๆ ที่มักใส่มาในกล้อง อาทิ Picture effects ที่คุณสามารถถ่ายภาพแบบ ขาวดำ หรือ ซีเปีย บางโอกาสฟังค์ชั่นเหล่านี้จำก็ทำให้ภาพธรรมดาๆ ดูสวยขึ้นมาได้
มีมารยาทในการถ่าย
ถึงแม้ว่ากล้องคอมแพ็คบางๆ นั้นจะสามารถพกพาและถ่ายภาพได้เสมอๆ แต่การถ่ายภาพนั้นก็ต้องมีมารยาทและข้อห้ามด้วย แน่นอนในโรงภาพยนตร์แม้แต่การเปิดเสียงหรือคุยโทรศัพท์มือถือ ยังเสียมารยาท ยิ่งถ้าเราไปถ่ายภาพในโรงภาพยนตร์ยิ่งไปกันใหญ่ และนอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่ต้องขออนุญาติเพื่อถ่ายภาพอีก ก่อนที่จะเล็งถ่ายภาพกันก็ขอให้ถามไถ่ผู้ดูแลสถานที่นั้นๆ ด้วย เช่น ในสนามบิน หรือห้างสรรพสินค้า ในศาล และตามสถานที่ราชการทั้งหลาย โดยเฉพาะสถานที่ทางทหาร รวมถึงอย่าถ่ายภาพที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
แต่งภาพก่อนโชว์
ผมอยากจะแนะนำว่าก่อนที่เราจะนำเสนอรูปภาพออกไปจะให้ดีก็ลอง ตกแต่งปรับสักนิดก่อนที่จะ เผยแพร่ ซึ่งโปรแกรมแต่งภาพที่หาได้ใกล้ตัวสุดคือ ซอฟต์แวร์ที่แถมมากับตัวกล้องนั่นเอง หรือถ้าไม่มีก็เข้า Photoshop จัดการตกแต่งเสียหน่อย เช่นทำ unsharp mask เพื่อความคมชัดของรูป ลบ Noise กันสักนิด หรือไม่ก็อาจจะเพิ่มกรอบภาพสักหน่อย เพื่อที่จะโชว์ได้อย่างสบายใจไม่อายใครนั่นเองครับ
ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ วิธีข้างต้น เผื่อว่าจะทำให้การถ่ายภาพของคุณดีขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะหลายคน มักจะชอบที่จะยกแล้วกดไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไร นั่นนับว่าเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงทีเดียวครับ
กล้องคอมแพ็คขนาดเล็กนั้นสามารถพกติดตัวคุณได้ตลอดเวลา และก็ไปกับคุณได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด คุณก็สามารถพกกล้องคอมแพ็คตัวเก่งไปถ่ายภาพได้ตลอดเวลา แต่ตรงนี้ขอบอกก่อนว่าคุณจะต้องมี เมมโมรี่การ์ดเก็บข้อมูลเยอะสักนิด ทางที่ดีควรมีสำรองครับ และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือ แบตเตอรี่ ควรมีสำรองเสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็น DSLR หรือ COMPACT ตัวเล็ก ๆ ก็ไม่ต่างกันนั่นคือ ถ่ายรูปมา 30-40 ได้ภาพที่สวยจริงไม่ถึง 10 ภาพ ดังนั้นคุณจะต้องถ่ายเยอะมาก ถ่ายหลาย ๆ มุม และค่อยมาเลือกเอาทีหลัง เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ
ซูมเท้าก็เป็นควมคิดที่ดี
กล้องคอมแพ็คตัวเล็กส่วนใหญ่ที่มีการซูมนั้น เรามักจะเห็นว่าการซูมภาพอาจทำได้ช้า อีกทั้งกล้องหลาย ๆ รุ่น ซูมด้วยระบบดิจิตอล มีผลทำให้ ภาพเก็บรายละเอียดได้น้อยลง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวเราจึงต้องใช้วิธี คลาสสิก คือใช้วิธีการเดินเข้าไปหาวัตถุมากกว่าการใช้ฟังค์ชั่นซูม ให้คุณสังเกตภาพจาก LCD บนจอให้ได้ระยะชัดที่สุดและเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด หรือถ้าอยากได้ภาพที่ละเอียดและใกล้ๆ มาก ๆ ก็ใช้มาโคร เอากล้องไปจ่อถ่ายเลยครับ
สายตาสื่อสัมพันธ์
เขาว่ากันว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ประโยคนี้ใช้ได้จริงกับการถ่ายภาพ โดยเฉพาะความต้องการให้ภาพของคุณมีแรงดึงดูดมากขึ้น โดยเฉพาะภาพที่ได้จากกล้องคอมแพ็คตัวเล็กๆ นั้นอาจไม่สามารถปรับค่าไม่ได้เหมือนกับ DSLR ฉะนั้นจึงจำเป็นมากที่คุณต้องการแรงดึงดูดนี้ การถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ หรือ สัตว์ เช่น สัตว์เลี้ยง สุนัข แมว การเก็บภาพของดวงตาที่มองมายังกล้องของคุณจะช่วยให้ภาพเกิดอารมณ์ เกิดแรงดึงดูดให้ผู้ดูภาพสนใจ เช่น สายตาตอนยิ้ม ตอนเศร้า ตอนกำลังดีใจ
ดูแสงก่อนจะลงมือถ่าย
ขอนี้สำคัญมากครับ ไม่ว่าจะเป็นกล้องระดับโปรฯ หรือเป็นกล้องคอมแพ็ค แสงคือสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อภาพ เพราะแสงทำให้เกิดสี และภาพที่สายตาเราเพราะในบางเวลาคุณจะพบว่าแฟลช มันไม่ช่วยอะไรได้มากนัก ฉะนั้นคุณต้องหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ลองหามุมที่ มีแสงตกกระทบวัตถุโดยปกติวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ การให้ต้นกำเนิดแสงอยู่ด้านหลังของคนถ่าย ซึ่งจะทำให้กล้องได้รับแสงมากที่สุดครับ
สนใจพื้นหลังสักหน่อย
ด้วยข้อจำกัดในการเก็บรายละเอียดของกล้องคอมแพ็คตัวบางๆ ในรุ่นล่างๆ ผมอยากแนะว่าให้คุณหลีกเลี่ยงการใช้แบล็คกราวน์หรือฉากหลังของภาพเป็นสิ่งที่มีรายละเอียดมากๆ ควรให้ฉากหลังเป็นโทนสีพื้น หรือ มีลักษณะที่แตกต่างกับบุคคลอย่างชัดเจน และไม่เด่นชัดมากนัก นั่นก็เพราะกล้องคอมแพ็คหลายรุ่นยากต่อการที่จะทำให้พื้นหลังของภาพนั้นเบลอลง ดังนั้น การถ่ายภาพ ที่พื้นหลังมีรายละเอียดเยอะเกินไป ก็จะมีผลทำให้ตัวคนไม่เด่นชัดได้เช่นกันครับ
หามุมก่อนถ่าย
ถ้าอยากให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาแล้วแปลกตา และดึงความสนใจจากผู้ที่ชมภาพได้ ก็ต้องถ่ายจากมุมแปลกๆ บ้าง ไม่ใช่กำหนดมุมกล้องในระดับสายตาอย่างเดียว เพราะมุมมองปกติเราก็เห็นกันอยู่ทุกวันก็มักจะถ่ายด้วยมุมกล้องแบบนี้ ดังนั้นเราลองหามุมมองแบบตามด คือ ถ่ายจากที่ต่ำให้ภาพอยู่สูง หรือ ถ่ายแบบมุมมองของตานก นั่นคือ ถ่ายจากมุมสูงให้ภาพอยู่ต่ำกว่าตัวกล้อง บางทีภาพพวกนี้จะทำให้ได้ภาพที่สวยมากกว่าภาพปกติได้เช่นกันครับ
ปรับความละเอียดของภาพให้สูงที่สุด
กล้องคอมแพ็คหลายต่อหลายรุ่นสามารถเลือกปรับการถ่ายภาพที่ความละเอียดต่างๆ กัน และหลายคนก็มักจะใช้กล้องความละเอียดต่ำ โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวเมมโมรี่เต็ม ความคิดแบบนี้ผิดมหันต์ครับ นั่นเพราะ เมื่อคุณเอาภาพลงคอมคุณจะพบว่าความละเอียดภาพมันหายไปมากทีเดียว ปกติผมจะถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูง ข้อดีที่ได้อีกอย่างคือ แม้ว่าคุณจะมา Capture ภาพเอาแค่บางส่วน คุณก็จะเห็นว่า ภาพก็ยังดูดีเหมือนเดิมนั่นเองครับ
ใช้กล้องให้ครบทุกฟังชั่น
หลายท่านซื้อกล้องมาแล้วไม่ค่อยได้ดูว่ามีฟังค์ชั่นในกล้องมีอะไรมาให้บ้าง ยกกล้องขึ้น และกดชัตเตอร์เป็นอันใช้ได้ แต่ผมอยากบอกว่า กล้องคอมแพ็คเกือบทุกรุ่นมีฟังค์ชั่นพิเศษที่จะช่วยเสริมให้ภาพที่ถ่ายนั้นดีขึ้น ซึ่งกล้องคอมแพ็คบางๆ ในรุ่นใหม่ๆ นั้นจะมีการปรับฟังค์ชั่นของเล่นต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณสามารถดูได้จากคู่มือของกล้อง หรือเข้าไปตามเว็บไซต์ ส่วนมากฟังค์ชั่นถ่ายภาพพิเศษๆ ที่มักใส่มาในกล้อง อาทิ Picture effects ที่คุณสามารถถ่ายภาพแบบ ขาวดำ หรือ ซีเปีย บางโอกาสฟังค์ชั่นเหล่านี้จำก็ทำให้ภาพธรรมดาๆ ดูสวยขึ้นมาได้
มีมารยาทในการถ่าย
ถึงแม้ว่ากล้องคอมแพ็คบางๆ นั้นจะสามารถพกพาและถ่ายภาพได้เสมอๆ แต่การถ่ายภาพนั้นก็ต้องมีมารยาทและข้อห้ามด้วย แน่นอนในโรงภาพยนตร์แม้แต่การเปิดเสียงหรือคุยโทรศัพท์มือถือ ยังเสียมารยาท ยิ่งถ้าเราไปถ่ายภาพในโรงภาพยนตร์ยิ่งไปกันใหญ่ และนอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่ต้องขออนุญาติเพื่อถ่ายภาพอีก ก่อนที่จะเล็งถ่ายภาพกันก็ขอให้ถามไถ่ผู้ดูแลสถานที่นั้นๆ ด้วย เช่น ในสนามบิน หรือห้างสรรพสินค้า ในศาล และตามสถานที่ราชการทั้งหลาย โดยเฉพาะสถานที่ทางทหาร รวมถึงอย่าถ่ายภาพที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
แต่งภาพก่อนโชว์
ผมอยากจะแนะนำว่าก่อนที่เราจะนำเสนอรูปภาพออกไปจะให้ดีก็ลอง ตกแต่งปรับสักนิดก่อนที่จะ เผยแพร่ ซึ่งโปรแกรมแต่งภาพที่หาได้ใกล้ตัวสุดคือ ซอฟต์แวร์ที่แถมมากับตัวกล้องนั่นเอง หรือถ้าไม่มีก็เข้า Photoshop จัดการตกแต่งเสียหน่อย เช่นทำ unsharp mask เพื่อความคมชัดของรูป ลบ Noise กันสักนิด หรือไม่ก็อาจจะเพิ่มกรอบภาพสักหน่อย เพื่อที่จะโชว์ได้อย่างสบายใจไม่อายใครนั่นเองครับ
ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ วิธีข้างต้น เผื่อว่าจะทำให้การถ่ายภาพของคุณดีขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะหลายคน มักจะชอบที่จะยกแล้วกดไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไร นั่นนับว่าเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงทีเดียวครับ